เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย บก.สส.บช.น.(สืบนครบาล) , ร่วมกับ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.จิตร์พิสุทธิ์ อิ่มสงวน รอง ผบก สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงจับกุมตัวผู้ต้องหา
1. นายอนาวิน แก้วเก็บ หรืออั้ม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.6 ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1070/2566 ลงวันที่ 22 พ.ย. 66 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน , ร่วมกันสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้”
2. นายกฤติ ล้ำเลิศ หรือทิว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/177 ซ.วัดหลวง แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1198/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”
จับกุมได้ที่ บนดอยปุย ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 09.00 น.
พฤติการณกล่าวคือ “ไล่ล่าสุดขอบฟ้า” คำกล่าวนี้ไม่เกินจริง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หลังมีการเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด” ไป 2 ครั้ง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาในลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม จำนวน 22 ราย แต่ยังไม่สามารถจับกุม “มือยิงและมือขี่” ที่ลงมือก่อเหตุ น.1 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ คัดมือดีไล่ล่าติดตามมือยิงรายนี้โดยเฉพาะ แต่ต้องบอกว่างานหินเพราะเจ้าตัว “หนีสุดชีวิต” และยังมีคนในองค์กรอาชญากรรมนี้คอยช่วยเหลือในการหลบหนีอีก ชุดสืบนครบาลได้เบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปบนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ จึงจัดทีมตะลุยแดนเหนือ โดยประสานงานกับ บก.สส.ภ.5 ขึ้นดอยปุยจนสามารถจับกุมตัว นายอนาวินฯ และนายกฤติ์ฯ มือยิงและเพื่อนกบดานกางเต้นอยู่บนดอย จับกุมตัวได้ก่อนกำลังจะวางแผนเดินทางออกนอกประเทศ
จากการสอบสวน นายอนาวินฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าเป็นมือยิงในคดีนี้ โดยเริ่มออกล่าตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 66 เวลา 22.00 น. แล้วไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนที่ละแวกเขตดินแดง จากนั้นได้เริ่มหาเหยื่อโดยไปหาเหยื่อละแวกร่มเกล้า แต่ไม่เจอ จึงไปจอดแอบกบดารละแวก คลอง 14 อยู่สักครู่ จากนั้นช่วงเช้าตรู่ได้เริ่มขับมาตระเวนหาเหยื่อในเมือง จนกระทั่งเจอกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย ก็จึงลงมือก่อเหตุ โดยยอมรับว่าตนเองยิงปืนนัดแรกกระสุนพลาดเป้าไปโดนคนด้านหลังซึ่งก็คือครูเจี๊ยบ จากนั้นได้ยิงซ้ำที่คอและศรีษะ หลังจากนั้นได้หลบหนีไปทางทาง จ.อยุธยา และพ่นเปลี่ยนสีรถ และไปทำลายรถ และหลบหนีไป จ.อุบลราชธานี สอบสวน นายกฤติฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
สำหรับคดีดังกล่าว จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิรดา อายุ 45 ปี หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ใช้ “มาตรการเด็ดขาด”เนื่องจากพวกนี้คือองค์กรอาชญากรรม ขนาดเล็ก จากนี้ต้องเชิงรุก พวกนี้เห็นตำรวจต้องกลัว ต้องเงียบลง มอบให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุม บช.น. เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน และคนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงมาควบคุมโดยเรียกระดมกำลัง บก.สส.บช.น.(สืบนครบาล) , กก.สส.บก.น.5 , กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน”เนื่องจากมีผู้ร่วมกระทำความผิดกันหลายคน และมีการวางแผนเพื่อต่อต้านการสืบสวนของตำรวจ อีกทั้งทำตัวเป็นโลกเสมือนจริง จึง
มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. คุมบังเหียนชุดสืบสวนเอง โดยหยิบมือดีจากทั่วนครบาลลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 40 วัน ร่วมกับ พล.ต.ต. วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 เจ้าของพื้นที่ “ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด”
สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้ โดยได้เปิดปฏิบัติปิดเมืองล่ามือปืน 3 ครั้ง ผลการปฏิบัติ ดังนี้
ปฏิบัติการครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2566 สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 9 คน
ปฏิบัติการครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2566 สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 13 คน
ปฏิบัติการครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน
รวมจับกุมผู้ต้องหา 24 คน ยังหลบหนี จำนวน 2 ราย
รายชื่อผู้ต้องหาหลบหนี
(1) นายอับดุลเลาะ ดือราแม (ผู้ขับขี่จักรยานยนต์พามือยิงก่อเหตุ)
(2) นายรัชวุฒิ แก้วสว่าง ข้อหาซ่องโจร
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ยืนยันว่ายังคงติดตามจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีที่ยังหลบหนีอยู่ และรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะร่วมขบวนการกระทำความผิด หรือให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิด หรือช่วยเหลือระหว่างหลบหนี เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ผู้เสียหาย และเป็นการป้องกันปราบปราม ยับยั้งไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอีก
#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #