“ชลน่าน”สั่งสอบด่วน รพ.เอกชน ปฏิเสธรักษานทท.ไต้หวัน ลั่นผิดจริงฟันขั้นเด็ดขาด!!

20649

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย กรณีโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธการรักษานักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่ประสบอุบัติเหตุทางถนนจนหมดสติ ได้สั่งการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนแล้ว หากพบว่ามีมูลความจริง ถือเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมาย ให้ดำเนินการเอาผิดจนถึงที่สุด

จากกรณีข่าวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกรถเฉี่ยวชนจนหมดสติ ทีมกู้ชีพของมูลนิธิได้ช่วยทำ CPR และนำส่งโรงพยาบาลเอกชนย่านพัฒนาการซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่ถูกปฏิเสธรับตัวผู้ป่วยและให้นำส่งโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตรแทน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างนำส่งนั้น นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับรายงานกรณีดังกล่าว ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วนแล้ว ซึ่งหากพบว่าโรงพยาบาลมีการปฏิเสธรับผู้ป่วยจริงตามที่เป็นข่าว จะถือว่ามีความผิดทั้งหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบใน 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) ในเวลาที่ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาถึงโรงพยาบาล ได้มีการประเมินและช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพ หรือถ้ามีความจำเป็นต้องส่งต่อเพื่อไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ได้จัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นอย่างเหมาะสมหรือไม่ และ 2) โรงพยาบาลมีการประเมินผู้ป่วยว่าเข้าข่ายฉุกเฉินวิกฤติ ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” (UCEP) หรือไม่

ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทย จะไม่ปล่อยให้ไม่ได้รับความปลอดภัย หรือถูกกระทำการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด

พรุ่งนี้ !! สบส. พร้อม สพฉ. เตรียมลงสอบ รพ.วิภาราม จากการปฏิเสธผู้ป่วยต่างชาติ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เตรียมลงสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลวิภาราม ในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 หลังพบเบาะแสการปฏิเสธรักษาผู้ป่วยต่างชาติ จนเป็นเหตุให้การรักษาล่าช่าจนผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา


วันนี้ (12 ธันวาคม 2566) นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. เปิดเผยว่า ตามที่มีคลิปวิดิโอปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่าพบชาวต่างชาติหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่บริเวณพัฒนาการ 50 ทางศูนย์วิทยุพระนคร จึงนำผู้ป่วยส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในย่านพัฒนาการ แต่ถูกปฏิเสธ ให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลรัฐแทน ดังนั้น ในวันที่ 9 ธันวาคม ตนจึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรม สบส. ดำเนินการตรวจสอบ โดยประสานข้อมูลจากศูนย์วิทยุพระนคร และศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่าได้นำผู้ป่วยชาวต่างชาติ ณ โรงพยาบาลวิภาราม แต่เจ้าหน้าที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลฯ ปฎิเสธที่จะให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เนื่องด้วย ผู้ป่วยไม่มีญาติจึงอาจจะเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ จึงได้มีการนำตัวผู้ป่วยส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสิรินธร และผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยในวันที่ 10 ธันวาคม พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย ได้ดำเนินการยืนยันข้อมูลกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) อีกครั้ง และพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความจริง จึงมีการหารือร่วมกันระหว่าง สบส.และ สพฉ.เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงาน จะรวมกันลงพื้นที่ ณ โรงพยาบาลวิภาราม ในวันพรุ่งนี้ (13 ธันวาคม 2556) โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสอบถ้อยคำจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย หากพบข้อมูลการกระทำผิด หรือพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าโรงพยาบาลวิภารามมีการปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติจริง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 36 ซึ่งกำหนดให้ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการ หรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและตามประเภทของสถานพยาบาลนั้น ๆ ซึ่งผู้กระทำผิดจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์