ปปง.แถลงยึดทรัพย์สินคดีสำคัญกว่าพันล้านบาท

28520

สำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สิน 996 รายการ 35 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,191 ล้านบาท
และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 31 รายคดี


วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด สรุปดังนี้

    (1) ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 20 รายคดี ทรัพย์สิน 769 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,071 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานยาเสพติดฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการลักลอบหนีศุลกากร

        โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้

        (1.1)​ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 57 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท

       รายคดี นายประสิทธิ์ฯ หรือชาญชัยฯ หรือเหว่ย เซี๊ยะกัง กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวกับการผลิตและลักลอบจำหน่ายยาเสพติด นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปประกอบธุรกิจบังหน้า หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน ด้วยการเปิดธุรกิจจำหน่ายเพชรพลอย และกิจการประเภทต่าง ๆ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (ยึดเพิ่มเติม) จำนวน25 รายการ (เงินสด พระเครื่องและวัตถุมงคล) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท(ทรัพย์สินประเภทพระเครื่องอยู่ระหว่างประเมินราคา) (ย.244/2566)

        รายคดี นายพจนารถฯ กับพวก กรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
ยาเสพติด จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบทรัพย์สินของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 32 รายการ (เครื่องประดับ นาฬิกา รถยนต์ และเงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท (ย.249/2566)

        (1.2)​ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและการฉ้อโกง การยักยอกทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวรวมจำนวน 229 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 861 ล้านบาท

            รายคดี นายฉี ซู (MR.QU XI หรือ MR.XU QI) กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและความผิดฐานฟอกเงิน กรณีกลุ่มจีนเทาร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนและโอนเงินไปลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแอปพลิเคชันปลอมชื่อ “Cboe Global Markets” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีและตรวจค้นหลายเป้าหมาย พบทรัพย์สินของเครือข่ายขบวนการกระทำความผิดจำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สินของนางสาวจักรีณาฯ (กีกี้ แม็กซิม) นอกจากนี้สำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 133 รายการ (เงินสด ทองรูปพรรณสินค้าแบรนด์เนม รถยนต์ ที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 596 ล้านบาท (ย.240/2566)

            รายคดี นายรัฐกรณ์ฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดฐานฟอกเงิน กรณีหลอกลวงร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าได้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากและราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 9 รายการ(นาฬิกา กระเป๋า เครื่องประดับ รถยนต์ และที่ดิน) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท (ย.237/2566)

            -รายคดี นายยอร์จฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีหลอกลวงผู้เสียหายหลายรูปแบบ เช่น การชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อที่ดินหลุดจำนองธนาคารเพื่อเก็งกำไร โดยจะได้รับผลตอบแทนต่อเดือนจำนวนมาก หรือการหลอกลวงให้เข้าร่วมโครงการลงทุนขุดแร่หายาก (RARE EARTH) ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หรืออ้างว่าตนเอง   ได้รับการว่าจ้างให้เป็นที่ปรึกษาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หลอกลวงว่าจ้าง ให้ออกแบบสถาปัตยกรรมและให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่ง ให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 13 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท (ย.239/2566)

            รายคดี บริษัท วัน บ็อกซ์ โฮม จำกัด กับพวก พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาร่วมผลิตและกระจายสินค้า  ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบียดบังกล่องสัญญาณดิจิทัลและอุปกรณ์ ซึ่งเหลือจากการที่ประชาชนนำคูปองไปแลก และนำเข้าระบบของสำนักงาน กสทช. ไม่คืนกล่องสัญญาณดิจิทัลทีวีและอุปกรณ์ แต่กลับนำไปขาย                     ทางอินเทอร์เน็ต โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 23 รายการ (ที่ดิน กองทุน และเงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล                 มูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท (ย.252/2566)

            รายคดี นางสาวเดือนนภาฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีขบวนการหลอกลวงประชาชนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้วิธีการสุ่มใช้โทรศัพท์ติดต่อไปยังกลุ่มประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของ  บริษัทขนส่งเอกชนหรือบริษัท ไปรษณีย์ไทย และหลอกให้โอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 51 รายการ (ที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องประดับ และเงินในบัญชีเงินฝาก)พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท (ย.254/2566)

    (1.3)​ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน มีการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ไว้ชั่วคราว รวมจำนวน 363 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท

         รายคดี นายปริญญ์ฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงินกรณีสืบเนื่องจากเว็บพนันออนไลน์ https://www.superslotjet.com/ เว็บไซต์ https://jokerwallet.game/ และเว็บไซต์ https://superwallet.game/ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ไว้แล้วรวมกว่า 500 รายการ ตามคำสั่ง
ย.70/2566 ลงวันที่14 มีนาคม 2566 และคำสั่งที่ ย.132/2566 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบการโอน รับโอน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 363 รายการ (รถยนต์ พระเครื่อง นาฬิกา สินค้าแบรนด์แนม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตุ๊กตา BEARBRICK) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท  (ย.247/2566)

       ( 1.4)​ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร

            รายคดี กลุ่มขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และนายอานันท์ฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร กรณีสืบสวนขยายผลจากการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งมีการดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก เคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ (สุกร) โดยไม่ได้รับอนุญาต และนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว จำนวน 24 รายการ มูลค่าประมาณ 53 ล้านบาท ตามคำสั่ง ย.226/2566 ในการนี้ สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องพบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมไว้ชั่วคราว จำนวน 28 รายการ (ที่ดิน รถยนต์ และเงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท (ย.248/2566)

   ( 2)​ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 10 รายคดี ทรัพย์สิน 147 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 57 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้

    (2.1)​ ความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวม จำนวน 102 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 57 ล้านบาท

       รายคดีกลุ่มบุคคลผู้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ www.bk8th.com (นายกิติพรฯ กับพวก) เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 76 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท

        รายคดี นายบรมฯ กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนัน  ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยสืบเนื่องจากการสืบสวนการกระทำความผิด  ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนของนางสาวสรารัตน์ฯ หรือแอม ไซยาไนด์ ซึ่งมีข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินกับกลุ่มบัญชีเงินฝากธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน   ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์เว็บไซต์ www.etfm.org https://fun88thaime.com/fun88/ และhttps://www.fun881211.com เป็นต้น โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 26 รายการ (สินค้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ นาฬิกาข้อมือ และยานพาหนะ) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท

    (3) ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) จำนวน 5 รายคดี ทรัพย์สิน 80 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 65 ล้านบาท ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้

   ( 3.1)​ รายคดี บริษัท ออสซี่ออยล์ จำกัด กับพวก เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์น้ำมันเพื่อการเกษตร ธุรกิจแฟรนไชส์โครงการรถเก็บขยะพลังงานไฟฟ้า คลังน้ำมันชุมชน โรงงานไฟฟ้าชุมชนโซล่าเซลล์ โดยคณะกรรมการธุรกรรมเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง ให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย โดยดำเนินการกับทรัพย์สิน 39 รายการ มูลค่าประมาณ 32 ล้านบาท และดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจำนวน 400 ราย  

       ( 3.2)​ รายคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด สถานีหลักสี่ กับพวก เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน  กรณีการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด และในโครงการเกษตรต่าง ๆ ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยคณะกรรมการธุรกรรมเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย โดยดำเนินการกับทรัพย์สิน  24 รายการ มูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท และดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจำนวน 1,368 ราย  

    (3.3)​รายคดี นางสาวปภาสิภัคฯ กับพวก (สหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร จำกัด) เป็นความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิอันมีลักษณะ เป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีพฤติการณ์กระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร จำกัด ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของสหกรณ์ฯ มีการปลอมลายมือชื่อสมาชิกในการถอนเงินและได้ไปซึ่งเงินดังกล่าว และมีการแก้ไข งบทดรองในแต่ละเดือน โดยมีการกระทำการดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ทำให้สหกรณ์ฯ ได้รับความเสียหายโดยคณะกรรมการธุรกรรมเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย  โดยดำเนินการกับทรัพย์สิน 7 รายการ มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท และดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจำนวน 1 ราย (สหกรณ์ออมทรัพย์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร)

        อนึ่ง โดยที่การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม

การฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็นมาตรการทางแพ่งมิใช่โทษทางอาญา และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งยึดหรืออายัดเป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเป็นการแจ้งให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบและให้ผู้ที่เป็นเจ้าของหรือมีส่วนได้เสียที่ถูกกระทบสิทธิจากคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินสามารถเข้ามาโต้แย้งเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งยึดหรืออายัด อีกทั้งเป็นการป้องกันมิให้บุคคลภายนอกผู้สุจริตเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือ กระทำการใดๆ ต่อทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดซึ่งมีความเสี่ยงที่จะกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวอีกด้วย

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์