วันที่ 3 ธันวาคม 256 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลากลางจังหวัดเลย ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม อาทิ นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), นายเสกสรร สุขแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมบังคับคดี ฯลฯ เดินทางมาตรวจราชการ จัดประชุมบูรณาการ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดเลย โดยก่อนเริ่มการประชุม มีการสาธิตการควบคุมตัวผู้ป่วยจากยาเสพติดที่มีอาการทางจิต โดยใช้สถานการณ์สมมุติการอาละวาดในชุมชน และใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ปืนเลเซอร์ ไม้ง่าม ไม้ขอ เป็นเครื่องมือควบคุม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวชื่นชมและขอบคุณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาเสพติด พร้อมเผยถึงการแก้ปัญหายาเสพติดปัจจัยสำคัญคือ ชุมชนและครอบครัว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ค้นหาผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศมีประมาณ 5 แสนกว่าราย และใน 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับเพราะยาเสพติดกว่า 3 แสนคน ที่อยู่ในระบบของกรมคุมประพฤติ ในเรือนจำมีผู้ต้องขังประมาณ 2.7 แสนคน กว่า 2 แสนคน เป็นคดียาเสพติด คนจำนวนกว่า 1 ล้านคนเหล่านี้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงของคนไทย เยาวชนไทย
“ยาเสพติดไม่กลัวกำลังทหาร ไม่กลัวอาวุธ แต่ยาเสพติดกลัวความรักของแม่ กลัวครอบครัวที่อบอุ่น กลัวชุมชนที่เข้มแข็ง ถ้าชุมชนลุกขึ้นต่อสู้ยาเสพติดจะไม่มียาเสพติดในชุมชนนั้น วันนี้เรามาผลักดันการต่อสู้ยาเสพติดในจังหวัดเลย ซึ่งการแก้ปัญหายาเสพติดต้องแก้ปัญหาที่คน ต้องเริ่มที่ชุมชนและหมู่บ้าน วันนี้เรามาร่วมกันสร้างอนาคต มาดูและติดตาม และช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีเป้าหมายในการแก้ปัญหายาเสพติดให้ได้ใน 1 ปี” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เรามีปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าในประเทศ ซึ่งได้เริ่มปฏิบัติการไปในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา 1 ปีที่เราจะสกัดกั้นยาเสพติดจะเข้าประเทศน้อยลง แต่ถ้าเราไม่แก้ปัญหาผู้เสพกว่า 1 ล้านราย ที่ได้รายงานไป ความต้องการยาเสพติดจะยังคงอยู่ ปัญหาคลั่งยาจะยังมีอยู่ เราจึงต้องเร่งรักษา พร้อมไปกับสร้างชุมชนให้ลุกขึ้นมา สร้างคนที่เข้มแข็งเพื่อลดความต้องการยาเสพติด ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจ ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่เห็นความสำคัญของปัญหา และลุกขึ้นมาร่วมมือกันในการต่อสู้กับยาเสพติด