พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงว่า ผลจากการประชุมหารือระหว่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พลตรีคำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ/หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สปป.ลาว ในการประชุมทวิภาคีไทย – สปป.ลาว เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 25 – 27 กันยนายน 2566 ณ จังหวัดกระบี่ นำมาสู่การประสานงานด้านการข่าวและปฏิบัติระหว่างสำนักงาน ปปส.ภาค 4 และกรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด สปป.ลาว ส่งผลให้เมื่อวันที่ 28 ต่อเนื่องวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 กรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด สปป.ลาว ได้ยึดยาบ้า 14,850,000 เม็ด ที่นครเวียงจันทร์ซึ่งเตรียมนำส่งข้ามชายแดนเข้าไทยทางด้านจังหวัดหนองคาย และจับผู้ต้องหา 5 คน โดยเป็นชาวลาว 4 คนและชาวไทย 1 คน และขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานกำลังร่วมมือกันสืบสวนเพื่อขยายผลจับผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถจับกุมได้และจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบ
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่าการดำเนินการข้างต้นเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะลดปัญหายาเสพติดให้ได้เป็นรูปธรรรมในเวลา 1 ปี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นให้มีการยกระดับความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อปฏิบัติการเชิงรุกในการป้องกันปละปราบปรามนักค้ายาเสพติด โดยเน้นที่การประสานความร่วมมือ ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าในไทยไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด แต่จะถูกนำเข้ามาจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งในระยะหลังพบว่านอกจากขบวนการค้าจะลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคเหนือแล้ว ยังลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงได้ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เสนอที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ใช้อำนาจตามมาตรา 5 (10) ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยกำหนดให้พื้นที่ ภาคเหนือ 11 อำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 อำเภอ ในจังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าวที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าไทยจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวในตอนท้ายว่า แม้สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่นในครั้งนี้ที่ทำให้ยาบ้าเกือบ 15 ล้านเม็ด ไม่ถูกนำเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ไม่ตกไปอยู่ในมือของเด็กและเยาวชนคนไทย แต่การป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนนั้น ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องช่วยกัน สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมที่จะดำเนินการทุกวิถีทางที่ลดปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 1 ปี และหากมีเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง