“เอก อังสนานนท์” ก.ตร.ตงฉิน โพสต์FB ก.ตร.7 อรหันต์ ดูการแต่งตั้งโยกย้าย หากไม่เป็นธรรมร้องทุกข์ได้ใน 30 วัน ย้ำเรื่องตั๋ว-ซื้อขายตำแหน่งมีความผิด !!
วันที่ 29 พ.ย.66 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โพสต์ข้อความลงในfacebook “Aek Angsananont”ระบุ สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับตำรวจที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจคงเป็นเรื่องนายกรัฐมนตรีพูดถึงการแต่งตั้งผู้กำกับใหม่ ฯลฯ
ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ต่อมาว่า ไม่ได้มีการฝากแต่งตั้งตำรวจ และไม่ได้ใช้อำนาจไปแทรกแซงการแต่งตั้งแต่อย่างใด
สื่อได้ติดตามสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง อดีตผู้บังคับบัญชาตำรวจในประเด็นต่างๆวิพากษ์วิจารณ์ วิเคราะห์ เจาะลึก อย่างกว้างขวาง
ผมเองก็ได้รับเชิญไปสัมภาษณ์สนทนากับสื่อ หลายรายการ อทิ ช่องเนชั่น คมชัดลึก กับคุณวราวิทย์ ฉิมมณี ช่องไทยพีบีเอส ”ข่าวเจาะย่อโลก“กับคุณเจษฎา จี้สละ ช่องมติชนสุดสัปดาห์ กับคุณพิชญเดชฯสถานีวิทยุ เอฟ เอ็ม 100.52(อสมท.)คุณพัชระ สารพิมพาฯลฯ
ประเด็นที่ผมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ เรื่องตั๋วฝากตำรวจมีจริงหรือไม่ มีความเป็นมาอย่างไร การซื้อขายตำแหน่ง ฯลฯ
ผมได้เน้นย้ำให้เห็นว่าปัจจุบันบริบทกฏหมายตำรวจเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย ต้องคำนึงระบบคุณธรรม มีหลักเกณฑ์จำกัดการใช้ดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา มิให้กระทำการโดยมิชอบ และมีการสอบทานโดยคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เมื่อก.พ.ค.ตร.วินิจฉัยอย่างไรแล้ว ผู้บังคับบัญชาอาจจะต้องรับผิดทางวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ตลอดจนกำหนดฐานความผิดและมีโทษทางอาญาด้วย (พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 มาตรา 33 – 42,มาตรา 60,มาตรา 87)
เมื่อวานนี้(28 พ.ย.2566)นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) โดยมีนายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ เป็นประธานฯและพล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน เป็นเลขานุการ มีผลให้ก.พ.ค.ตร.เริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที
ดังนั้น หากข้าราชการตำรวจผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเรียงลำดับอาวุโสหรือการแต่งตั้ง ให้มีสิทธิร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร.ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่งแต่งตั้ง
ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัยให้แล้วเสร็จภานใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องทุกข์ คำวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร.ให้เป็นที่สุด
ผู้ร้องทุกข์ไม่พอใจอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 90 วัน
ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัย ผู้บังคับบัญชาไม่ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ในการเรียงอาวุโสหรือในการแต่งตั้ง ให้ถือว่าผิดวินัย พิจารณาลงโทษโดยไม่ต้องสอบสวน ภายใน 30 วัน นับแต่ ก.พ.ค.ตร.แจ้ง แล้วรายงาน ก.ตร.
ก.ตร.พิจารณาแล้วเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายผู้ใด ให้ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง (โทษไล่ออกหรือปลดออก)ลงโทษได้โดยไม่ต้องสอบสวน
สำหรับเรื่องตั๋วและการซื้อขายตำแหน่ง มีบทกำหนดฐานความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะ (พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 มาตรา 87 วรรคสุดท้าย)
“ผู้ใดให้ ขอให้ รับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือแอบอ้างอำนาจของบุคคลใด หรือเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่น หรือกระทำทำการโดยมิชอบ เพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งใด ไม่ว่าการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี”
ผมยืนยันว่า ได้มีการปฏิรูปตำรวจในเรื่องการบริหารบุคคลแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ หากมีการละเลยหรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย และหลักเกณฑ์การแต่งตั้งต่างๆ ก.พ.ค.ตร.จะพิจารณาและวินิจฉัย เพื่อผดุงระบบคุณธรรมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นบันทัดฐานการปฎิบัติที่ถูกต้องต่อไป
รายการ คมชัดลึก
รายการ ข่าวเจาะย่อโลก
Cr.ขอบคุณช่อง Nation TV และ Thai PBS
ก.ตร.เซ็นตั้ง7อรหันต์พิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ มี”สมรรถชัย “ตุลาการศาลปกครองสูงสุดเป็นประธาน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 356/2566
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 33 และมาตรา 35แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ.2565 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) จำนวน 7 ราย ดังนี้ นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ เป็น ประธานกรรมการ และมี นายธวัชชัย ไทยเขียว , พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี, นายวันชาติ สันติกุญชร พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์, พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม เป็นกรรมการ และมี พล.ต.ท. ปัญญา เอ่งฉั้วน เป็น กรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2566