“หุ่นพยนต์”หนึ่งในวิชาโบราณมีมาแต่ครั้งพุทธกาล เอาไว้เฝ้าบ้านเฝ้าสมบัติเป็นดั่งเพื่อนผู้ซื่อสัตย์

991

อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

สาวพิการ” สาน “หุ่นพยนต์” หนึ่งในศาสตร์โบราณ ขายสร้างรายได้นับหมื่นบาท

คุณอัมพร จันทร์ถาวร อายุ 53 ปี  ต.บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทองเป็นผู้พิการโรคโปลิโอ มีอาชีพสาน “หุ่นพยนต์ ที่ทำจากหวายหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปกี่เซนติเมตรไปจนสูงเท่าตัว เด็ก หรือประมาณ 160 ซม.  โดยคุณอัมพร เล่าว่า สมัยก่อนผู้ทรงวิทยาคมจะเอาวัตถุมากขึ้นร่างเป็น “หุ่นพยนต์ แล้วเป่าเสกให้มีชีวิต ซึ่งเป็นความเชื่อในวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณ หรือที่เรียกกันว่าวิชาผูกหุ่น ซึ่งสมัยก่อนจะใช้หญ้าแพรก ไม้ไผ่ ขี้ผึ้ง และผ้ามาทำเป็นหุ่นคนที่มีแบบมีขา แล้วปลุกเสกด้วยคาถาอาคม มีการตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกอาการ 32 จนหุ่นนั้น เสมือนมีชีวิต เชื่อว่าสามารถใช้งานตามคำสั่งของเจ้าของโดยสมัยโบราณนิยมทำ ไว้ เฝ้าบ้าน หรือเรือกสวนไร่นา และทำเป็นเครื่องรางพกพาติดตัว

คุณอัมพร ยังบอกอีกว่า สำหรับราคาหุ่นพยนต์ หากมีผู้สั่งท่าขนาดความสูง 170 ซม ราคา 10,000 บาท, ขนาด สูง 120 ชม ราคา 7,000 บาท, ขนาดสูง 80 ซม ราคา 5,000 บาท, ขนาดสูง 30 ซม, ราคา 3,000 บาท  ขนาดสูง 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว ราคา 1,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการนำเส้นเงินและเส้นทองมาให้ทำเป็นหุ่นพยน ขนาดห้อยคอด้วย มีลูกค้าสั่งทํา หุ่นพยนต์ เข้ามาเรื่อยๆ โดยผู้สั่งชื้อจะนำไปปลุกเสกแล้วให้เช่าบูชาตามใบจอง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะ เป็นชาวต่างชาติ เช่น มาเลเซีย และฮ่องกง โดยแต่ละครั้งจะสั่งหลายสิบตัว ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สร้างรายได้ให้กับคุณอัมพร ที่สําคัญ คือ คนสั่ง ระบุว่าต้องให้ตนเป็นคนสานหุ่นพยนต์เท่านั้น เพราะเคยไปสั่งที่อื่นแล้วไม่ ถูกใจ

ถึงแม้ว่าคุณอัมพร จะพิการเป็นโรคโปลิโอ แต่มีความสามารถด้านการจักสานเป็นอย่างมาก จนเป็นตัวแทนคนพิการของ ประเทศไทยเข้าแข่งขันงานฝีมือคนพิการ ซึ่งได้รับรางวัลเหรียญทองระดับชาติ และเหรียญเงินที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พศ.2550 นอกจากนี้ ยังเคยสร้างความฮือฮาด้วยการใช้พรสวรรค์จักสานหวายเป็นพ่วงข้างรถจักรยานยนต์รูปทรงเครื่องบิน เพื่อใช้ ส่งหลานไปเรียนหนังสือ และพาหลานไปเที่ยวจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกมาแล้วอีกด้วย

ที่มา:เพจมูลนิธิเพื่อคนพิการ

                  ( รูปถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า )

      

หนึ่งในวิชาไสยศาสตร์ที่ใช้ในการรบทัพจับศึกและอยู่ในชีวิตประจำวันของคนสมัยโบราณแห่งอุษาคเนย์ คือวิชาสร้างหุ่นพยนต์ แม้ปัจจุบันวิชาหุ่นพยนต์จะยังพอหลงเหลืออยู่แต่ก็หาผู้สร้างที่เข้มขลังอย่างแท้จริงได้ยากนัก เนื่องจากวิชาเหล่านี้เวลาตกทอดมักจะใช้แบบปากต่อปากและวิธีการสร้างให้เข้มขลังก็ค่อนข้างยาก สมัยก่อนกว่าจะสร้างหุ่นพยนต์ได้สักตัวนั้นยากเย็นเป็นอย่างยิ่งต่างจากปัจจุบันที่มักจะเน้นเอาสะดวกและทำได้ในปริมาณมากๆ

ตำนานหุ่นพยนต์ มีให้เห็นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดย “พระมหากัสปะเถระ” เสกหุ่นพยนต์โดย อธิษฐานอภิญญาฤทธิ์ ให้หุ่นพยนต์ เฝ้าอภิบาล “พระบรมสารีริกธาตุ ” ก่อนที่พระมหากัสปะเถระจะเข้าสู่นิพพาน จากนั้น 200 ปี “พระเจ้าอโศก มหาราช” เปิดสถูปพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเชิญลงมา แต่เจอหุ่นพยนต์ ป้องกันอยู่ ทหารนับแสน ของพระองค์ก็ยัง เอาชนะไม่ได้ และไม่สามารถเข้าไปเอาพระบรมสารีริกธาตุออกมาได้ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงกายมาเป็นพราหมณ์หนุ่มเอาศร มายิงทำลายหุ่นพยนต์ จึงคลายมนต์ และนำเอาพระบรมสารีริกธาตุ และมหาสมบัติออกมาได้

หุ่นพยนต์ มาจากคำว่า “พยนต์” แปลว่า สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น  หุ่นพยนต์ คือ รูปหุ่นจำลองของ คน สัตว์ เทวดา ยักษ์ หรืออะไรก็สุดแท้แต่จินตนาการของผู้สร้าง โดยอาศัยหลักการว่าอยากได้รูปร่างยังไงให้ทำหุ่นแบบนั้น โดยดูความต้องการให้เหมาะกับงานที่จะให้ไปทำ

ส่วนวัสดุที่นำมาใช้ทำก็สามารถนำมาทำได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่หญ้าสาน ก้านใบไม้สาน เถาวัลย์สาน หวายสาน ใบไม้ถัก ไม้แกะสลัก เทียนไข ผ้าอิฐ หิน ดิน ทราย  เงิน ทอง ฯลฯ

              

การผูกหุ่นพยนต์นั้นเวลาสร้างหุ่นขึ้นเป็นรูปจะเรียกกันว่าการปลุกหุ่นโดยเกจิอาจารย์ผู้สร้างจะบริกรรมคาถาและกำหนดเอาจิตบรรจุลงในหุ่นให้เกิดอาการ 32 ให้หุ่นสามารถรับรู้และเคลื่อนไหวได้ เหมือนกับ สิ่งมีชีวิตทุกประการ จะแสดงฤทธิ์คอย ปกป้องเมื่อมีผู้คิดร้ายหรือถ้าหากเป็นสถานที่ต่างๆ ที่หุ่นพยนต์ดูแลรักษา หุ่นพยนต์จะแสดงฤทธิ์ปกป้องเฝ้าทรัพย์สินสิ่งต่างๆ ในบริเวณพื้นที่ที่เกจิอาจารย์หรือผู้ใช้กำหนดไว้อีกทั้งยังสามารถพกบูชาติดตัวได้ทั้งหญิงและชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงานร้านค้าเฝ้าเรือกสวนไร่นา กัน ขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

หุ่นพยนต์ จะ แตกต่างกับกุมารทอง หุ่นพยนต์จะเกิดจากผู้สร้างทำหุ่น แล้วใช้สมาธิจิตผู้สร้าง เรียกรูปเรียกนาม ตั้งธาตุ ขึ้นมา ครูบาอาจารย์เก่าๆ บางท่านจะกำหนดจิตแยกเป็น ดิน หนัง น้ำ เลือด น้ำเหลือง ลม หายใจ ไฟ อุณหภูมิในตัว ประหนึ่งว่าคือ การสร้างคนคนนึงทึเดียว แต่กุมารทองจะเกิดจากผู้สร้าง นำวิญญาณสัมภเวสีมาใส่โดยส่วนมากมักเป็นวิญานเด็ก เพื่อให้ดวงวิญณานในกุมารทองสั่งสมบุญเมื่อถึงเวลาไปเกิดจะได้ไปเกิดในที่ดีๆ

หุ่นพยนต์นอกจากทำหน้าที่เปรียบเสมือน บอดี้การ์ด แล้วยังประจุความเข้มขลังทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ขอสิ่งใดก็มักจะได้สมตามความ ปรารถนาเสมอ เหมือนมีเพื่อนคู่กายดีๆ ที่คอยคุ้มครองดูแลเรา แต่ก็ควรจะทำบุญกรวดน้ำให้แก่หุ่นพยนต์ตัวนั้นๆ ที่เราใช้ อยู่เป็นประจำ โดยห้ามถวายเหล้าอย่างเด็ดขาด หากไม่ได้นำหุ่นพยนต์ติดตัวขึ้นคอ ก็จะวางบนพานพุ่ม ถวายน้ำเปล่า เวลาจะกินข้าวก็เรียกให้หุ่นพยนต์มากินด้วยกัน หุ่นพยนต์มีการสร้างหลายสาย ทั้งเหนือ อีสาน กลาง ใต้ เรียกว่าศาสตร์นี้มีทุกภาคของประเทศ

      หุ่นพยนต์แบ่งหลักๆ ได้ 2 สาย  สายเทพ หรือ สายขาว สายพราย หรือ สายดำ

“สายขาว” หรือสายเทพนั้น มักเป็นหุ่นพยนต์ที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุธรรมชาติ เน้นการปลุกเสกเพื่อใช้งาน ในทางปกป้องคุ้มครอง  ดูแลเจ้าของ เคหสถานบ้านเรือน

“สายดำ” หรือสายพราย จะมีการบรรจุมวลสารอาถรรพ์ต่างๆ เพื่อให้มีฤทธิ์เดชมากกว่าปกติ มวลสาร ดังกล่าวก็มีตั้งแต่ของที่เกี่ยวกับวิญญาณ ศพ ป่าช้า น้ำมันพราย ฯลฯ

            ( รูปหุ่นพยนต์ รุ่นมหาเฮง หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน )

หุ่นพยนต์สายขาว หรือสายเทพ เน้นในการปกปักรักษา คุ้มครองเจ้าของ ดูแลคนในบ้านเรือน เปรียบเหมือนบอดี้การ์ดที่มีความซื่อสัตย์ และภักดีต่อเจ้าของ หากจะแสดงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็เพื่อการดูแลเจ้าของให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง จะไม่หวนกลับมาทำร้ายเจ้าของ โดยเด็ดขาดโดยส่วนใหญ่ผู้สร้างหุ่นพนย์สายขาวนี้มักจะเป็นเกจิอาจารย์ที่มีจริยาวัตรงดงามและมีศีล5 เป็นพื้นฐาน จึงจะสามารถสร้างหุ่นพยนต์ที่มีอิทธิอำนาจขึ้นมาได้

อย่างเช่น หุ่นพยนต์ รุ่นมหาเฮงของ หลวงพ่อพัฒน์ แห่งวัดห้วยด้วน จังหวัดนครสวรรค์  ที่หลวงพ่อพัฒน์ ท่านได้รับสืบทอดวิชาจาก ท่านพ่อพุฒ ก้อนจันทร์เทศ ซึ่งเป็นโยมบิดาของหลวงพ่อพัฒน์ โดยท่านพ่อพุฒ ได้รับตำราการสร้างหุ่นพยนต์จาก หลวงปู่เทศ วัดสระทะเล อีกที หุ่นพยนต์ รุ่นมหาเฮง หลวงพ่อพัฒน์ มีการปลุกเสกหลายวาระ ทุกตนฝังตะกรุดสามกษัตริย์ พอกมวลสาร ฝังพลอยเสกและเขียนยันต์หน้าหลังลงอักขระนะเศรษฐีหัวใจธาตุ คาถาเกี่ยวกับโชคลาภ และมหาอุตม์  สนนราคาก็ยังไม่แรง หลักร้อยกลางๆ หลักพันต้นๆเท่านั้น จะเก็บไว้ใช้หรือเก็บเผื่ออนาคตแล้วดีนักแล

                  คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนครับ

                                          เขียนโดย ต้น คนชอบพระ

                  ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ

ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ

 สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น

สุดท้ายก่อนจากกันขออนุญาตฝากข่าวประชาสัมพันธ์งานบุญ

กราบเรียนเชิญ…

ท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี กับ สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ และ ตระกูลสุขสมนึก  ณ.วัดโปร่งเก่า ต.โปร่งเก่า อ.หนองโดน จ.สระบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.2566

โดยท่านสามารถ โอนเงิน เช้า บช.วัด โปร่งเก่า บัญชี”วัดโปร่งเก่า”

ธ.กรุงไทย เลขที่ 989-7-75709-0

(บันทึกว่าร่วมทอดกฐิน)

ขออนุโมทามิ สาธุ .. สาธุ…สาธุ…!!!

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์

#ตระกูลสุขสมนึก

#ชาติชาย สุขสมนึก