“องค์กรสื่อ”ตั้งกรรมการตรวจสอบปมนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว!!

8911

“องค์กรสื่อ” ประกาศ ตั้ง 7 กรรมการ ตรวจสอบ กรณีสื่อรับเงินจากแหล่งข่าว เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของสื่อมวลชนให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสม ตามกรอบจริยธรรมวิชาชีพของสื่อมวลชน เพื่อสร้างการยอมรับต่อสาธารณะ ต้องภายในเวลา 120 วัน

            


เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  สภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย)ได้มีประกาศ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว

สืบเนื่องจากแถลงการณ์ร่วม 7 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เรื่อง นักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว กรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่ามีการจ่ายเงินให้สื่อมวลชนเพื่อเป็นค่าข่าว และช่วยเหลือด้านต่างๆ เนื่องจากเห็นว่านักข่าวเงินเดือนน้อย โดยมีมติเห็นชอบร่วมกันให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความกระจ่างชัดในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณะ โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนจากสภาวิชาชีพสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนขององค์กรสมาชิก องค์กรละ 2 คน (เป็นบุคคลากรในวิชาชีพ 1 คน และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 1 คน) รวมเป็น 6 คน และให้สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาเป็นประธานคณะกรรมการอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน ซึ่งผู้แทนจาก 3 สภาวิชาชีพได้ส่งรายชื่อกรรมการและร่วมกันสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมาเป็นประธานคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว ดังรายนามต่อไปนี้

(1)​ ดร.วิเชียร ชุบไธสง  นายกสภาทนายความฯ เป็นประธานกรรมการ

(2)​นางสาวนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ เลขาธิการสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เป็น กรรมการ

(3)​นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการผู้เชี่ยวชาญ สภาองค์กรของผู้บริโภค  เป็น กรรมการ

(4)​นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย   เป็น กรรมการ

(5)​นายรณรงค์ แก้วเพชร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็น กรรมการ

(6)​นางสาวอัญชนก แข็งแรง รองประธานสภาวิชาขีพกิจการการแพร่ภาพและกระจายเสียง (ประเทศไทย)  เป็น กรรมการ

(7)​รศ.ดร.มนวิภา วงศ์รุจิระ อาจารย์ประจำสาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  เป็น กรรมการ

อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

(1)​ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีสื่อมวลชนนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว ตามแถลงการณ์ร่วม 7 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน

(2)​รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป

(3)​จัดทำข้อเสนอการดำเนินการตามผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนอไปยังองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต่อสาธารณะ เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของสื่อมวลชนให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสม ตามกรอบจริยธรรมวิชาชีพของสื่อมวลชน เพื่อสร้างการยอมรับต่อสาธารณะ ภายในเวลา 120 วัน นับแต่วันที่ประกาศแต่งตั้ง โดยอาจขอขยายเวลาได้ครั้งละ 30 วันแต่ไม่เกิน 2 ครั้ง ประกาศ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2566 คำประกาศดังกล่าวระบุ

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์