ผบ.ต่อ สั่งล่าตัว”เสี่ยแป้ง”แกล้งป่วยหนีคุก

548

ผบ.ตร.สั่ง ผบช.ภ.8 ร่วมกองปราบ เร่งไล่ล่าจับกุมนักโทษสำคัญหลบหนี รพ.มหาราช นครศรีธรรมราชให้ได้โดยเร็ว พร้อมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ ขยายผลดำเนินการเด็ดขาดทุกราย ย้ำกำชับให้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี คนร้ายมีประวัติโชกโชน

วันที่ 23 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษคดีร้ายแรงหลายคดี หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ให้เร่งรัดติดตามตัวให้ได้โดยเร็ว โดยจัดกำลังตำรวจพื้นที่และตำรวจบช.ภ.8  ทั้งนี้หากมีการร้องขอกำลังสนับสนุน ยุทโธปกรณ์ จากส่วนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็พร้อมสนันสนุนหากมีการร้องขอ

ส่วนประเด็นที่สันนิษฐานว่านายเชาวลิต ได้วางแผนแหกคุกไว้หลายวัน และอาจจะเตรียมไปล้างแค้นพยาน 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทำให้นายเชาวลิต แพ้คดีจนต้องติดคุก นั้น พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ทางตร.จะประสานงานข้อมูลในส่วนนี้กันอีกครั้ง

ราชทัณฑ์ ตั้งรางวัลนำจับ “เสี่ยแป้ง” นักโทษคดีอุกฉกรรจ์แหกคุก 1 แสนบาท หลังหลบหนีขณะเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.

กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถึงประเด็นที่มีข่าวปรากฎในสื่อต่างๆ กรณีมีเหตุการณ์นักโทษหลบหนีการควบคุม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 66 ซึ่งเป็นนักโทษชื่อดัง ต้องคดีร้ายแรงหลายคดี หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น ที่ผ่านมา และยังไม่สามารถติดตาม ตัวกลับมาได้ โดยกรมราชทัณฑ์​ได้รับรายงานว่า นักโทษรายดังกล่าว คือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี มีคดีความผิดคดีปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ พรบ.อาวุธปืน กำหนดโทษรวม 21 ปี 3 เดือน 25 วัน พ้นโทษ วันที่ 6 พฤษภาคม 2586 ถูกย้ายพฤติการณ์มาจากเรือนจำกลางพัทลุง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพล โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาถูกส่งออกไปรักษาทางทันตกรรม ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่มีอาการวูบหมดสติ และขาอ่อนแรง จึงแอดมิทที่โรงพยาบาลฯ และหลังจากนั้นได้หลบหนีไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ขณะนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำ กลางนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมโดยประสานความร่วมมือและสนธิการปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ พร้อมทั้งได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการลงไปบัญชาการ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวโดยด่วน

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า การที่ผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างคุมขังนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขังเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 075 803905 หรือ 096-6411495 ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มีรางวัลนำจับให้จำนวน 100,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล พบว่านายเชาวลิต ได้ไขกุญแจเดินออกมาจากหอผู้ป่วย ลงลิฟต์จากชั้น 6 ลงไปชั้นล่าง โดยสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว โดยหลังจากออกจากลิฟต์แล้ว ได้หลบหนีออกจากตึกอายุรกรรมทันที และพบอีกว่าหลังจากทราบเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ได้แจ้งตำรวจทันที แต่ล่วงเลยถึง 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุจึงเข้าแจ้ง โดยมี พ.ต.ท.มนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ นายเชาวลิต ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี เช่น คดีสมคบค้ายาเสพติด คดีฟอกเงิน คดีร่วมกันฆ่า เช่น คดีการลอบฆ่านายอนันต์ คลังจันทร์ อดีตรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และยังพบข้อมูลอีกว่าเจ้าหน้าที่ ปปง. ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของนายเชาวลิต ที่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าตัวได้นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาวมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากมีการเตรียมเงินไว้เป็นทุนที่นายเชาวลิตจะลงสมัคร ส.อบจ.พัทลุง (สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง) โดยระหว่างเคลื่อนไหวหาเสียงนายเชาวลิตได้ใช้รถเบนซ์กันกระสุนเป็นพาหนะ แต่ต้องคดีร้ายแรงก่อนหลายคดี จึงต้องมาวิ่งเต้นคดีแทน

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์