ขอให้”พลอย”เป็นศพสุดท้าย เซ่นพิษแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วอนรัฐบาลแก้ปัญหาแบบบูรณาการ

3367

           น้องพลอย สาวน้อยวัย 19 ปี ชาวปากพนัง นครศรีธรรมราช ไม่ใช่ศพแรกที่ผูกคอตายเซ่นพิษแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เกิดขึ้นมาเป็นระยะในรอบหลายปี บางกรณีถึงขั้นฆ่าตัวตายเกือบยกครัว

                จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับคนไทย เป็นปัญหาที่ภาครัฐค่อนข้างละเลย โดยสะท้อนได้ชัดเจนคือเมื่อเกิดเหตุขึ้น หากไม่มีความตายของเหยื่อถูกนำเสนอผ่านสื่อการสืบสวนจับกุมจะไม่บังเกิดแล้วความเสียหายจะถูกเก็บซุกอยู่ในบันทึกประจำวันของตำรวจ

               เว้นแต่ว่าเหยื่อรายใดเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ความกระตือรือร้นจากเจ้าหน้าที่รัฐมีมากเป็นพิเศษ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะประสานให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุม อย่างกรณีที่เกิดกับผู้ประกาศข่าวช่อง 3 หรือกรณีของน้องพลอย การสืบสวนเพื่อสาวถึงบัญชีม้าดำเนินการอย่างรวดเร็ว

           แต่ทุกคดีไม่สามารถสาวถึงต้นตอหรือผู้บงการได้เลย อาจจะเป็นเพราะเมื่อสาวแล้วไปเจอตอ เนื่องจากที่ผ่านมาหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกออกหมายจับไปมีชื่อปรากฏเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองบางพรรคถึง 500,000 บาท

         บางกรณีเมื่อจับกุมสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ เหยื่อไปชี้ตัวยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด ระหว่างเจรจาจะมีตำรวจนอกแถวอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์มาพร้อมทนายความคนร้าย มาทำหน้าที่กล่อมให้เหยื่อยินยอมให้รับเงินเพียงน้อยนิดแลกกับไม่คัดค้านประกันตัว

       ยิ่งมาเห็นข้อมูลที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)แถลงว่า”ปัจจุบันพบบัญชีม้าอยู่ในระบบธนาคารมากถึง 200,000-500,000 บัญชี จากบัญชีธนาคาร 121 ล้านบัญชี รวบรวมได้แล้ว 10,000 รายชื่อรวมกว่า 70,000 บัญชี เป็นอัตราส่วน 1คนถือ 7 บัญชี และพบรายชื่อผู้เข้าข่ายเพิ่มขึ้น 1,000 รายชื่อต่อสัปดาห์” ชวนให้ขวัญผวา

     ขณะเดียวกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พลิกแพลงรูปแบบต้มตุ๋นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการปลอมคิวอาร์โค้ดของหน่วยราชการแล้วหลอกให้สแกนเพื่อดูดข้อมูลส่วนตัวไปเจาะบัญชีเงิน

  หรือปลอมเสียงเป็นคนรู้จักโทรศัพท์หาเหยื่ออ้างว่าเป็นญาติ เป็นเพื่อนเพื่อหลอกยืมเงิน วิธีที่พบคนร้ายจะโทรศัพท์หาเป้าหมายแล้วพูดว่า”จำได้ไหมนี่ใคร” หรือ”จำเพื่อนได้หรือเปล่า”แล้วให้เหยื่อพูดชื่อขึ้นมาก่อน จากนั้นคนร้ายจะสวมชื่อเป็นคนนั้น คุยสารทุกข์ ทำทีว่าจำเป็นต้องใช้เงิน โดยอ้างว่าแอปธนาคารล่ม มีเหตุต้องใช้เงินหรือเหตุผลความจำเป็นอื่นเพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงิน

    เป็นเล่ห์กลที่แก๊งคอลเซ็นตอร์พลิกแพลงอาละวาดต้มตุ๋นเหยื่อประจำทุกวัน ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำชาวบ้านส่วนใหญ่มีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง อยากหารายได้เพิ่มกลายเป็นช่องว่างให้ถูกหลอกได้ง่าย

   ถามว่าภาครัฐได้ดำเนินการกำจัดหรือไม่ คงตอบได้ว่ามีความพยายามอยู่ แต่ทำได้แบบแกนๆประสานการทำงานได้เฉพาะหน่วยงานที่พอประสานได้อาทิ ปปง.ประสานกับตำรวจสืบสวน แล้วส่งข้อมูลให้ธนาคารดำเนินการต่อ ไม่ค่อยมีผลลัพธ์ในทางที่ดี เพราะธนาคารมักจะอ้างเงื่อนไขติดข้อกฎหมายหรือระเบียบธนาคาร

    ถ้ามองปัญหาแบบภาพรวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จัดเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ สร้างความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้ามานานหลายปี

    อยากให้รัฐบาลยกปัญหานี้ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ แก้ปัญหาเชิงรุกแบบบูรณาการ นายกรัฐมนตรีออกมาขับเคลื่อนแบบทันท่วงที จัดเป็นรูปคณะกรรมการ ให้รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งเจ้ากระทรวงคือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ฐานะแกนนำเพื่อไทย คงจะมีเพาว์เวอร์พอที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ความเกรงใจและร่วมมือ

    คณะกรรมการประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยและค่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น โดยกรรมการแต่ละคนต้องมีอำนาจสั่งการหน่วยงานในสังกัดเพื่อรับนโยบายไปปฏิบัติให้บรรลุผล

    หรือถ้ามีคณะกรรมการรูปแบบนี้อยู่แล้วอยากให้นายกรัฐมนตรีขันน็อตให้ขับเคลื่อนให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่เชื่อว่าคณะกรรมการนี้ยังไม่บังเกิด เพราะทุกครั้งที่ชาวบ้านโดนพิษแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงขั้นฆ่าตัวตาย จะมีเพียงตำรวจเท่านั้นที่ออกมาแอ็คชั่น

  จึงอยากให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่เดินสายขายไอเดียชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เป็นเรื่องดีที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ควรกลับมามองปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในประเทศด้วย

  ซึ่งนายเศรษฐา น่าจะเรียนรู้พฤติกรรมของบรรดาข้าราชการไทยได้ดีว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่เป็นหัวขบวนในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง น็อตมักจะหลวมเสมอ

   ที่นำเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เชิงรุกแบบบูรณาการ ได้แต่หวังเล็กๆเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนจะแก้ปัญหาอย่างจริงจังเลยทั้งที่รับรู้กันว่าเป็นปัญหาใหญ่

   ถ้ารัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน จัดการอย่างจริงจัง เชื่อว่า”น้องพลอย”คือศพสุดท้ายที่สังเวยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ !!!