นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ ต้องถาม ถึงกรณีการปรากฏภาพ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผกก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา กองพัฒนาการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล อดีตนายตำรวจติดตามนางสาวยิ่งลักษ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินตามและถือถุงชอปปิ้งให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่ง มีการส่งต่อในโลกออนไลน์ อ้างว่าถ่ายได้ที่ประเทศอังกฤษ ว่า ตอนนี้ก็คงมีการดำเนินการทางวินัยกัน ว่าเจ้าตัวเขาใช้สิทธิ์ในการลาแล้วก็เกิดภาพขึ้นมา ก็มีความไม่เหมาะสม ในแง่ที่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งจะต้องรักษากฎหมาย อำนาจที่จะไปทำอะไรในต่างประเทศ คงไม่มี แต่ความเหมาะสมตรงนั้นก็คงเป็นที่มาของการดำเนินการทางวินัยอยู่ในขณะนี้ เรื่องนี้คือมันก็แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งเหมือนกันว่าความผูกพันหรือความสัมพันธ์ของบุคคลในสังคมเรา ดูจะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เมื่อเคยทำงานกันมา ก็จะผูกพันกันไปแบบนี้จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นก็แม้จะมีหน้าที่อย่างที่ก็ถือว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมันสำคัญกว่า อันนี้ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่สะท้อนถึงจุดอ่อนของของสังคมไทย
เมื่อถามว่าสังคมไทยควรจะร้องเรียนรู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จะต้องแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเรื่องของหน้าที่ เรื่องของกฎหมาย เรื่องผลประโยชน์ของสังคมมันต้องแยกกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องแยกกัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วก็อันนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมก็เคยแสดงความคิดเห็นหลายครั้ง คือเวลาเราเจอปัญหาต่างๆ เราก็จะบ่นถึงเรื่องของความเสื่อมของมาตรฐานของศีลธรรมจริยธรรม เราก็จะพูดเสมอว่าเรื่องศีลธรรมจริยธรรมค่านิยมต่างๆ เนี่ย ทำอย่างไรเราถึงจะมาปลูกฝังทำให้กับคนของเราเป็นคนดี ผมก็พูดเสมอว่าจริงๆ การพูดถึงเรื่องศีลธรรมจริยธรรมหลายอย่างเนี่ย มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น คำว่าง่ายไม่ได้หมายความว่าคนแยกแยะไม่ได้ระหว่างผิดชอบชั่วดี เพียงแต่ว่าสำหรับปัญหาแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องว่าอะไรดีอะไรไม่ดีมัน มันจะเกิดความขัดแย้งกันระหว่างค่านิยมหรือจริยธรรมหรือจรรยาบรรณที่พึงจะใช้ในเรื่องของส่วนรวมกับเรื่องของส่วนตัว อันนี้ยากมาก ปัญหาอีกหลายปัญหาก็เข้าข่ายแบบนี้
“เรื่องที่ว่ามีการซื้อเสียงระบบอุปถัมภ์อะไรต่าง ๆ ทั้งหลาย มันไม่ใช่ว่าดีไม่ดี ประเด็นคือมันดีสำหรับเรื่องไหนสถานการณ์อะไร ถ้าพูดกันชัด ๆ ก็หมายความว่า เราก็ปลูกฝังให้คนรู้จักบุญคุณ เราก็พูดว่าคนเป็นเพื่อนกันต้องเป็นเพื่อนแท้ เพื่อนเราเป็นอะไรไปอย่างไร เราก็ต้องช่วยเหลือคงความเป็นเพื่อนอยู่ เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมบอกว่า การคบหากันส่วนตัว การกระทำแบบนี้เนี่ย ก็เป็นสิ่งที่เราก็บอกควรทำไม่ใช่หรือ ในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่ใช่ว่าพอคนที่เรารู้จักคนที่เคยมีอำนาจเขามีอะไรไปแล้ว เราก็เลยบอกควรทำไม่ใช่หรือ แต่กรณีแบบนี้มันมาขัด เรื่องของจรรยาบรรณหรือจริยธรรมที่คนที่เป็นเจ้าหน้าที่พึงจะใช้หรือผลประโยชน์ของส่วนรวม ดังนั้นตรงนี้ต่างหากที่มันเป็นปัญหาใหญ่ที่เรายังจะต้องพูดกันอยู่ในสังคม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เชิญชมไลฟ์สด รายการ "ต้องถาม" กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เวลาประมาณ 9.30 น. เป็นต้นไป #DemocratTH #พรรคประชาธิปัตย์
โพสต์โดย Democrat Party, Thailand พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2018