ผบ.ตร.แถลงปฎิบัติ“Gun clearanc operation”ยึดอาวุธปืนของกลางจำนวนมาก เผย สั่งปิดกั้นสื่อออนไลน์ค้าปืนเถื่อนกว่า291รายการ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลปฎิบัติการกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนผิดกฎหมายทั่วประเทศ “Gun clearanc operation” โดยใช้กองกำลังจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. , กองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสผู้กระทำความผิดจนนำมาสู่การขอศาลอนุมัติออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย , ดัดแปลง และซื้อขายอาวุธปืน 3,224 จุด จับกุมผู้กระทำผิด 1,593 คดี มีผู้ต้องหา 1,585 คน และตรวจยึดอาวุธปืน และเครื่องกระสุนผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนไม่มีทะเบียน , แบลงก์กัน และบีบีกันจำนวน 1,789 กระบอก ในจำนวนนี้ มีแบลงก์กัน 528 กระบอก และบีบีกัน 202 กระบอก, อาวุธปืนมีทะเบียน ซึ่งเป็นของบุคคลอื่น หรือปืนผิดมือ จำนวน 219 กระบอก, เครื่องกระสุน 75,973 นัด
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ที่กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ประกอบด้วย Facebook 79 บัญชี , TikTok 14 บัญชี , X (Twitter) 148 บัญชี , YouTube 26 ช่อง และ Instagram 14 บัญชี รวม 291 รายการ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้มีการระดมกวาดล้างอาวุธปืนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าเป็นภัยสังคมที่ต้องกวาดล้าง โดยจากสถิติการก่ออาชญากรรมพบว่าส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะใช้ปืนผิดกฎหมาย และแบลงก์กัน มีส่วนน้อยที่จะใช้ปืนถูกกฎหมายก่อเหตุพร้อมเชิญตัวแทนผู้ประกอบการแอปพลิเคชันจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อช่วยตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการจำหน่าย และส่งอาวุธปืนผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบจากต้นทาง จึงทำให้การจำหน่าย และส่งอาวุธปืนผิดกฎหมายทำได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม ปฎิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เด็กอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้เรียกประชุมคณะทำงาน และได้มอบหมายงานให้ พล.ต.ท. ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานสืบสวน ให้ดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังทั่วประเทศในการกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงระหว่างวันที่ 9 ถึง 11 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายหลักคือ การทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน , อาวุธสงคราม , เครื่องกระสุน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางออฟไลน์ และออนไลน์ รวมทั้งปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภท ที่มีการลักลอบซื้อขาย , ดัดแปลง , แก้ไข อาวุธปืนผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเชื่อว่าปฎิบัติการครั้งนี้ จะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรม และการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนลดลง ซึ่งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน , นักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติ อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยจะเดินหน้ากวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และอาชญากรรม สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์