“ชี้แนวโน้ม”กก.-พท.”คนละทาง”

             ในที่สุดความพยายามของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อกลับบ้านเกิดเมืองนอนหลังระหกระเหินอยู่ต่างประเทศกว่า 10 ปี ก็บรรลุเป้าหมาย


                 เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า”26 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกไม่อยากเชื่อตัวเองในสิ่งที่ลูกกำลังพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ววันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง”


             พลันที่ข่าวสะพัดออกไป มีแต่เสียงขานรับไร้เสียงต่อต้านเหมือนที่ผ่านๆ แม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรีก็มิได้แสดงอาการหงุดหงิด ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ ก็หยอดเป็นภาษาอังกฤษว่า”Yes,Sir”


               ขณะที่กรมราชฑัณฑ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เตรียมความพร้อมเพื่อนำนายทักษิณ ดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำ
             สื่อเลือกข้างทั้งหลายก็เสนอข่าวไปในแนวทางเดียวโดยมิได้วิพากษ์วิจารณ์หรือต่อต้านการกลับของนายทักษิณ แต่อย่างใด


            บางสำนักก็แบขั้นตอนกฎหมายเมื่อนายทักษิณถึงไทยโดยเฉพาะขั้นตอนขอพระราชทานอภัยโทษว่า”วันแรกที่เข้าเรือนจำ นายทักษิณสามารถทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายโดยถือเป็นพระราชอำนาจ ของพระมหากษัตริย์”


           ขณะเดียวกันก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการกลับวันที่ 10 สิงหาคม สะท้อนนัยยะสำคัญ หลายประการ อาทิ มีข่าวสะพัดว่าวันที่ 10 สิงหาคม อาจจะจะเลือกโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แบบม้วนเดียวจบ เป็นต้น


            ข่าวการกลับบ้านของนายทักษิณ ก็มาพร้อมกับเสียงนินทาว่าก่อนที่จะประกาศวันกลับบ้านที่แน่นอน มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า บินไปหารือกับนายทักษิณ ที่ฮ่องกง ถึงการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรค  


         การหารือจบด้วยการดึงพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมโดยไม่ต้องพึ่งเสียงจากส.ว.และพรรคของ 2 ลุง พร้อมเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย  ให้รัฐสภาโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แม้ภายหลังจะมีแกนนำกลุ่มก้าวหน้าและแกนนำคก้าวไกล ออกมาบอกว่าไม่ทราบแต่ไม่ถึงกับปฏิเสธเสียทีเดียว


     สูตรจัดตั้งรัฐบาลสูตรนี้กลุ่มอำนาจเก่าก็มิได้ต่อต้านแต่อย่างใด เพราะนโยบายส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดรัฐบาลจะผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด


    ในประเด็นดังกล่าวก็ยังมิได้มีความเห็นจากแกนนำก้าวไกลมากนัก แต่ถ้ายินยอมที่จะเข้าร่วมรัฐบาลโดยยอมรับเงือนไขเกือบทุกข้อจนละเลยนโยบายสำคัญที่ประกาศช่วงหาเสียงเรียกคะแนนได้อย่างถล่มทลายก็มีโอกาสสูงที่จะถูกแฟนคลับต่อต้าน


     หมากตานี้หากเกิดขึ้นจริงแกนนำก้าวไกลต้องเตรียมรับมือด้วยการชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลให้แฟนคลับทราบ เพราะอย่าลืมว่าที่ประชาชนทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่เทคะแนนให้ชนะแบบเหนือความคาดหมายก็เพื่อหวังการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทั้งภาครัฐและภาคเอกชน


     “แต่หากก้าวไกลยอมทุกเงื่อนไขเพื่อเข้าสู่อำนาจให้ได้ ก็อย่าไปคาดหวังว่านโยบายสำคัญๆที่ประกาศไว้จะถูกผลักดันให้เกิดขึ้นได้ เพราะเกือบทุกนโยบายล้วนแต่ไปลดทอนผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเก่าทั้งสิ้น”


    ที่สำคัญการกลับของนายทักษิณมีเงื่อนไขผูกโยงกันอยู่ โดยเฉพาะความคาดหวังในการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซาอย่างหนัก ให้กลับมาเฟื่องฟูประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น ศรัทธาต่อสถาบันต่างๆที่เสื่อมทรุดก็จะกลับดังเดิม


   เมื่อจับกระแสทางสังคมถึงการกลับของนายทักษิณ จะพบว่าทุกกลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มทุนผูกขาดและแนวร่วมที่เคยต่อต้านต่างขานรับกันทั่วหน้าและอาจจะได้เห็นกลุ่มแนวร่วม นปช. กปปส.และพันธมิตรฯทำเอ็มโอยูสลายความบาดหมางกันก็เป็นได้


   ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกล ยังคงยืนหยัดในอุดมการณ์ของพรรคที่มุ่งหวังเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ทิศทางที่คนจำนวน 14 ล้านเสียงมุ่งหวัง ควรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วประกาศถอนจากพรรคร่วมรัฐบาลมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มคุณภาพเหมือนที่ผ่านมา โดยไม่ต้องกังวลว่าเพื่อไทยจะไร้เสียงหนุนเพราะพรรคร่วมรัฐบาลเก่าแบะท่ารอผสมพันธุ์อยู่แล้ว


   หากก้าวไกลยังดึงดันจะอยู่ในอำนาจเหมือนแกนนำบางคนบอกว่าถ้าก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาลประชาชนจะไม่มีอะไรจะกิน ความเป็นพรรคก้าวไกลก็นับวันเสื่อมได้เลย นอกจากแฟนคลับจะหมดศรัทธาแล้ว กลุ่มอำนาจเก่าก็รอฆ่าตัดตอนอยู่แล้ว
 
       ถ้าก้าวไกลสวมบทฝ่ายค้านจะมีเสียงแต่เสียงขานรับ เพราะจะช่วยประเทศผ่อนเบาการทุจริตคอรัปชั่นได้เยอะ เพราะสามารถกระตุกขวัญบรรดารัฐมนตรีที่คิดแต่กอบโกยได้ระดับหนึ่งหากคิดจะทำต้องแนบเนียนและใช้เวลามากขึ้น


    “ที่สำคัญระบบการเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ การตรวจสอบต่างๆจะถูกขานรับจากองค์กรอิสระมากขึ้น ถ้าจับทุจริตได้แบบคาหนังคาเขาจะรอดเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นไปได้ยาก โอกาสที่จะอยู่ไม่ครบเทอม 4 ปีก็เป็นไปได้สูง เพราะอย่าลืมว่าทุกรัฐบาลที่ถูกโค่นล้วนแต่มีต้นตอมาจากการโกงแทบทั้งสิ้น”


   ถึงคราวเลือกตั้งพรรคส้มจะมีโอกาสชนะแบบแลนด์สไลด์ จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวทุกๆนโยบายที่สัญญากับประชาชนไว้ก็จะทำได้จริง จึงอยากถอยห่างมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่าร่วมรัฐบาลในฐานะลูกไล่ !!!  

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img