ตำรวจไซเบอร์ เตือนมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนบุคคลขายในสื่อสังคมออนไลน์โทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปี ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลหลายล้านรายชื่อ
ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ได้กำชับสั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด เร่งดำเนินการปราบปรามสืบสวนสอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.66 เวลาประมาณ 12.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท.
พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้ทำการจับกุมตัว นายผดุงเกียรติ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ในข้อหา “ โดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ หรือโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1)(2), จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันฯ ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ พ.ศ.2478 มาตรา 12 และล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ นำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มาตรา 80 ” พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมุดบัญชีธนาคาร และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นำตัวส่ง พงส.บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากได้มีการตรวจสอบพบกลุ่มเฟซบุ๊กแบบปิด (Private Group) ซึ่งภายในกลุ่มดังกล่าวมีการนำเสนอซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และสิ่งของที่ผิดกฎหมายต่างๆ มีสมาชิกประมาณ 100,000 บัญชี โดยมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความประกาศขายฐานข้อมูลของลูกค้ากลุ่มการพนันออนไลน์ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และไลน์ไอดีของลูกค้า เป็นต้น ขายในราคาต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่ 100,000 รายชื่อ ราคา 500 บาท ไปจนถึง 2,000,000 รายชื่อ ราคา 3,500 บาท เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปใช้ในการทำการตลาด นำข้อมูลที่ได้ไปใช้โทรศัพท์ติดต่อ หรือส่งข้อความสั้น (SMS) หรือแอดไลน์ไปยังรายชื่อดังกล่าว และหากซื้อข้อมูลดังกล่าวไปแล้วจะมีการอัปเดตข้อมูลให้ฟรี นอกจากนี้แล้วยังมีการโพสต์ประกาศรับเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์เริ่มต้นเพียง 6,500 บาท พร้อมดูแลระบบ และออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้ฟรีอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.5 จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยง และทำการพิสูจน์จนทราบตัวผู้กระทำผิด กระทั่งได้เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวได้ในเขตพื้นที่ จ.ตรัง และขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผลการตรวจค้นพบฐานข้อมูลส่วนบุคคล และพบหลักฐานว่าผู้ต้องหาเป็นแอดมินดูแลระบบหลังบ้านของเว็บการพนันออนไลน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์ โดยได้จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต่อมาเมื่อปี 65 ได้เริ่มทำเว็บพนันออนไลน์ ทำหน้าที่เป็นแอดมินดูแลระบบหลังบ้าน ต่อมาเมื่อ มิ.ย.65 ได้ทำการซื้อข้อมูล และรายชื่อลูกค้ามาจากสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก จำนวน 2,000,000 รายชื่อ ในราคา 8,000 บาท เพื่อนำมาใช้ทำการตลาดโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ที่ตนดูแลอยู่ จากนั้นเดือนต่อมาตนได้เลิกทำเว็บพนันออนไลน์ แต่ได้เริ่มนำข้อมูลรายชื่อดังกล่าว มาประกาศขายในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยเริ่มทำมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ มีลูกค้าเข้ามาซื้อข้อมูล 15-20 ราย/เดือน มีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 50,000 บาท ทราบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการทำการตลาดเว็บพนันออนไลน์เช่นกัน และในบางส่วนกลุ่มมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้ในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากประชาชน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.5 จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นกระทำที่ผิดกฎหมายหลายบท มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการจัดเก็บข้อมูล และนำไปใช้โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเสียก่อน และขอฝากไปยังประชาชนว่าในการใช้งาน หรือเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ให้พึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพอาจเข้ามาฉวยโอกาสนำข้อมูลเหล่านี้ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ นอกจากจะเป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้นั้นอาจจะถูกนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างเช่นกรณีดังกล่าวอีกด้วย
#thaitabloid
สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน