ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม ตำรวจภูธรบางพลี ตำรวจกองกำกับการ 3 ด่านตรวจคนเข้าเมืองสมุทรปราการ ฝ่ายปกครองพื้นที่ เจ้าหน้าที่ กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่คุ้มครองแรงงานสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบ บริษัท อีเลคโทร เคมีคอล เทคโนโลยี จำกัด เลขที่ 79/143 หมู่ 19 ต.บางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังพบว่า เป็นโรงงานลักลอบประกอบการขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฏหมายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 2 ชั้น ด้านหลังเป็นโกดังคัดแยกและผลิตเม็ดพลาสติก แต่ไม่พบผู้ดูแลหรือเจ้าของ พบเพียงคนงาน 4 คน เป็นต่างด้าวทั้งหมด ตรวจสอบ มีเอกสาร การเข้าเมืองถูกต้อง และ ทำงานภายใต้ข้อยกเว้น กระทรวงแรงงาน ภายในโรงงานพบขยะอิเลคทรอนิคส์ นับ 100 ตัน เช่น จอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วน อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ ที่เก็บอยู่ชั้น 2 ของโรงงานและในโกดังด้านหลัง และเครื่องผลิตเม็ดพาสติกที่เครื่องยังเปิดเครื่องอยู่แต่ไม่พบผู้ควบคุม
ด้าน พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าโรงงานดังกล่าวมีการโยงใยกับ การสำแดงเท็จการนำขยะอิเล็กทรอนิคส์เข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งที่คลองด่าน บางบ่อ บางปู และที่แห่งนี้ มีความสัมพันธ์โยงใยกัน และจากการตรวจสอบพบว่า มีการนำเข้าจอหลอดภาพโทรทัศน์รุ่นเก่าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่น้อยกว่า 100 ตู้คอนเท้นเนอร์ มาเก็บไว้ในโรงงานทั้ง 2 ชั้นเต็มไปด้วยหลอดภาพ และโรงงานที่ 2 เต็มโกดัง ในส่วนนี้เป็นผู้ที่นำเข้าสินค้าซึ่งต้องขออนุญาตโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการผิดตาม พระราชบัญญัติส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้า รวมทั้งต้องส่งออกสินค้าที่นำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นอันตรายเหล่านี้กลับไปยังประเทศต้นทาง นำเข้าหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 23 วรรค 1 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้ง ปรับ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน ตรวจสอบแล้วไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงงานคัดแยกและกำจัดขยะอิเล็ดทรอนิกส์ เป็นความผิดฐานประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน มาตรา 12 โทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการปล่อยน้ำน้ำเสียออกสู่สาธารณะโดยไม่มีระบบการบำบัด มีความผิดฐานไม่ทำตามกฏกระทรวงกำหนดมาตราฐานและการควบคุมการปล่อยของเสีย มวลพิษหรือสิ่งใดๆที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นจากการประกอบ มีความผิดตามมาตรา 8 (5)แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนทางด้านการต่อเติมโรงงานทาง อบต.บางพลีใหญ่จะได้ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่