เชื้อชั่วไม่มีวันตาย(6)
จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้ารัฐที่ส่อไปทางที่มิชอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะด้วยความเชื่อที่ว่าหากพรรคก้าวไกล เป็นรัฐบาลคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการในระบบราชการไปในทางที่ดี ข้าราชการที่มีอุดมการณ์รับใช้ชาวบ้านจะได้เห็นเส้นทางเติบโตบ้าง
ขณะเดียวกันข้าราชการที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆทั้งใต้ดินบนดินเพื่อตัวเองและเอื้อให้ผู้บังคับบัญชา หวังผลักดันตัวเองสู่ตำแหน่งสูงขึ้น คงจะถูกขจัดออกไปบ้าง
เป็นการตั้งความหวังแบบเล็กๆเพราะการจัดระเบียบและระบบราชการคือการบ้านข้อใหญ่ที่พรรคก้าวไกลต้องเจอ หากได้เป็นแกนนำรัฐบาลจริงๆเพราะเพียงแค่ระยะเวลาเดือนกว่าๆในห้วงลาเดินเกมจัดตั้งรัฐบาล เรื่องฉาวโฉ่ก็ปรากฏให้เห็นเป็นระลอก
โดยเฉพาะแวดวงตำรวจ ที่ก้าวทันยุคสมัยในการแสวงหาผลประโยชน์ เพราะแต่เดิมตำรวจนอกแถวจะหาผลประโยชน์จากบ่อนการพนัน สินค้าเถื่อน น้ำมันเถื่อน สถานบันเทิงผิดกฎหมาย รวมถึงหวยเถื่อน
แต่ปัจจุบันได้พัฒนาจากบ่อนการพนันที่จัดเล่นแบบมีสถานที่ก็กลายเป็นบ่อนพนันออนไลน์ ลูกค้าสามารถแทงได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ผ่านทางออนไลน์
ซึ่งตำรวจนอกแถวได้เนินการอย่างเอิกเกริก มีนายพลตำรวจบางคนเป็นเจ้าของเว็บพนันเอง บางกลุ่มก็ก็รับใช้เจ้าของเว็บพนัน ทั้งทำหน้าที่คุ้มครอง อุ้มลูกค้าเพื่อทวงหนี้ หรืออุ้มลูกค้าที่ชนะพนันไปรีดเงิน
พฤติกรรมเหล่านี้คนในแวดวงสีกากีส่วนใหญ่ต่างรับทราบ แต่จะปรากฏผ่านสื่อเมื่อผลประโยชน์ของเจ้าของเว็บพนันกับตำรวจขัดกัน หรือลูกค้าเว็บพนันถูกรังแกจากคนในเครื่องแบบก็จะออกมาร้องผ่านสื่อจนเป็นข่าวครึกโครม ทุกครั้งที่ข่าวฉาวปรากฏต่อสาธารณะ จะสาวไส้กันอุตลุด
ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.)ชลบุรีกับพวก ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์แก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ระหว่างสอบสวนตัวละครที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ปูดว่าต้องจ่ายนายพล จ. เดือนละ 1 ล้านบาท
ข้อเท็จจริงเป็นประการใดคงต้องรอผลสืบสวนสอบสวน แต่คงไปไม่ถึงไหน เพราะจะออกทำนองลูบหน้าปะจมูก แต่นายพล จ. คือใครในแวดวงสีกากีส่วนใหญ่รับรู้ แวดวงพนันจะรู้ดีเป็นพิเศษ ส่วนชาวบ้านก็เดากันไปและอาจะตั้งคำถามว่าทำไมตำรวจถึงใจกล้าที่จะใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ
ถ้าใครได้สัมผัสกับแวดวงสีกากีหรือตามข่าวทั้งด้านลบและบวกก็จะหาคำตอบได้ไม่อยาก
โดยเฉพาะคำตอบจากนายตำรวจบางคนที่ลาออกจากราชการตำรวจ เพราะไม่อาจทนกับสภาพที่ต้องแสวงหาผลประโยชน์ให้ผู้บังคับบัญชาหรือหาผลประโยชน์ให้ตัวเองเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้
ซึ่งลักษณะดังกล่าวได้กลายเป็นประเพณีปฏิบัติของตำรวจบางคนบางกลุ่มที่ต้องการความก้าวหน้า ชื่อเสียง เงินทอง ไปแล้ว
โดยเฉพาะตำรวจที่จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) เมื่อใกล้จบจะออกไปฝึกงานตามโรงพักต่างๆระหว่างนั้นจะศึกษาพฤติกรรมของรุ่นพี่ว่า ถ้าอยู่ในตำแหน่งสารวัตรสืบสวน สารวัตรสอบสวน หรือสารวัตรจรจาจร ผลประโยชน์ที่มิชอบจะหาได้จากช่องทางไหน
รวมทั้งศึกษาว่าโรงพักไหนเป็นโรงพักเกรดเอ เกรดบี หรือเกรดซี เก็บไว้เป็นข้อมูลเพื่อจะเลือกเมื่อจบการศึกษาว่าถ้าพลาดโรงพักเกรดเอแล้ว โรงพักเกรดบีพื้นที่ไหนใกล้เคียงกับเกรดเอบ้าง
ซึ่ง นรต.หลายกลุ่มและหลายรุ่นได้ยึดถือปฏิบัติกันมาแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว เพราะรุ่นพี่ได้ปูทางให้เห็นว่า ถ้ามุ่งผลประโยชน์ในทุกทาง ความก้าวหน้า ชื่อเสียงและความร่ำรวยก็จะเกิดในฉับพลัน
มีตัวอย่างรุ่นพี่หลายคนปรากฏให้เห็นถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและการเงิน แม้บางคนเพลี่ยงพล่ำไปบ้างก็สามารถกลับมาผงาดได้ เพราะระหว่างมีอำนาจก็หาผลประโยชน์ตุนไว้จำนวนมาก ก็กลายเป็นใบเบิกทางชั้นเยี่ยมให้ผู้บังคับบัญชานั่งปากมัน
จึงอย่าแปลกใจกับบทบาทตำรวจในยุคที่อยู่ในอุ้งมือรัฐบาลเผด็จ จะเน้นทำงานเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บังคับบัญชาและตัวเองมากกว่าเอื้อให้ประชาชน
เพราะถ้าทำตามอุดมการณ์มุ่งรับใช้ประชาชน มีแต่ย่ำอยู่กับที่ แถมบางเวลาต้องเจ็บตัวและชักเนื้ออีกต่างหาก
พฤติกรรมลักษณะนี้ได้กลายเป็นเชื้อชั่วอีกตัวหนึ่งที่กำลังระบาดอย่างหนักในแวดวงสีกากี ถ้าปล่อยไว้โดยไร้การเหลียวแลอาจะลามเกินจะเยียวยาก็เป็นได้
ดังนั้นข้อมูลในลักษณะนี้ก็ไม่อยากให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่กำลังเก็บข้อมูลเพื่อปฏิรูประบบราชการมองข้าม เพราะเชื้อชั่วตัวนี้ได้ฝังตัวกัดกินตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตราชการเลยทีเดียว
จึงได้แต่หวังว่าผู้มีอำนาจคงยอมกดแต่ไฟเขียวให้”พิธา”นั่งนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้จัดการกับเชื่อชั่วให้เบาบางลงบ้าง แต่ถ้า”พิธา”ติดไฟแดงยาวเชื้อชั่วก็ไม่มีวันตาย เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาล้วนแต่นอนกอดกับเชื้อชั่วอย่างชื่นมื่น !!!