นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการเตรียมแก้ปัญหาในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีผลกระทบต่อจำนวนสมาชิกพรรค และการทำระบบเลือกตั้งขั้นต้น เพื่อหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. (ไพรมารี่โหวต) ว่าตนสนับสนุนให้แก้ไขเนื้อหา แทนการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หรือใช้มาตรา44 เพื่อดำเนินการ เนื่องจากหากไม่แก้ไขในประเด็นดังกล่าวอาจทำให้เป็นปัญหาต่อการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะการส่งผู้สมัคร ส.ส. ที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งกำหนดให้ต้องใช้ระบบไพรมารี่โหวต ซึ่งผูกเข้ากับจำนวนสมาชิกพรรค
ตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนา มีสมาชิกที่ยืนยันเพียง 4พันกว่าคน ดังนั้นหากจะส่งผู้สมัครส.ส. ครบทุก 350 เขต จำเป็นต้องหาสมาชิกเพิ่มให้ได้อย่างน้อย 8,000 คนถึง 10,000คน ไม่เช่นนั้นเราจะทำไพรมารี่โฆวตไม่ได้ ผมขอความเห็นใจ อย่างน้อยขอให้ คสช.ปลดล็อคให้ตอนนี้พรรคการเมืองเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ได้ เพราะหากไม่ยอมปลดล็อคไม่เฉพาะพรรคการเมืองในระบบที่จะมีปัญหาเท่านั้น แต่พรรคใหม่ อย่างพรรคประชารัฐก็จะเจอปัญหาเช่นกัน นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับระบบไพรมารี่โหวต ที่ผู้เขียนกฎหมายยกให้เป็นกลไกมีส่วนร่วมของประชาชนและเป็นแนวทางของการปฏิรูปประเทศนั้น ตนมองว่า ไพรมารี่โหวตที่นำใช้ แม้จะถูกยอมรับในสหรัฐอเมริกา แต่ที่ผ่านมายังพบปัญหา อย่างไรก็ตามการนำรูปแบบของต่างประเทศมาใช้โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมไทยคือ ปมปัญหาสำคัญ
“ในการทำไพรมารี่โหวตในประเทศ จำเป็นต้องใช้เวลา ทั้งการหาตัวแทนที่จะลงแข่งขันในพื้นที่ที่จะทำไพรมารี่โหวต ลงพื้นที่ให้ความรู้และความเข้าใจกับระบบใหม่กับสมาชิกพรรคในพื้นที่ รวมถึงการชี้แจงถึงการต้องออกมาเลือกผู้แทนของตนเองถึง 2 ครั้ง ผ่านไพรมารี่โหวตของพรรคกับ การแข่งขันในสนามการเมืองใหญ่ และรวมถึงนำระบบไพรมารี่โหวต” นายวราวุธ กล่าว