ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานกรณีการจับกุมอดีตพระพรหมเมธี หรือจำนงค์ เอี่ยมอินทรา) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน ที่ประเทศเยอรมันนี และไม่ทราบว่ามีการขอลี้ภัยหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ต้องรอถาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับมาวันไหน แต่เชื่อว่าการติดตามจำกุมอดีตพระพรหมเมธีนั้น ทุกหน่วยงานได้ทำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกมิติ
โฆษก ตร. กล่าวว่า ถ้ากล่าวถึงขั้นตอนทั่วไปในกรณีที่มีผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศและขอหลี้ภัย ประเทศต้นทางจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริงหรือไม่ มีถิ่นที่อยู่หรือแหลงพำนักอยู่ที่ใด เมื่อทราบที่อยู่แล้วก็จะได้ดำเนินการในเรื่องของการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะต้องแปลสำนวนการสอบสวนเพื่อเพื่อส่งให้อัยการต่างประเทศ ในกรณีนี้ก็ต้องดูว่าประเทศนั้นๆมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกว่าในข้อหาที่อนุมัติจับกุมเป็นเรื่องที่เข้าองค์ประกอบการขอลี้ภัยหรือไม่ ในกรณีของพระพรหมเมธี ตนไม่ทราบว่าตำรวจสากลออกหมายน้ำเงิน หมายแดงหรือยัง และไม่ทราบว่าประเทศเยอรมันมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยหรือไม่
สำหรับอดีตพระพรหมเมธี จะเข้าหลักเกณฑ์ส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่และจะสามารถนำตัวกลับมาไทยได้หรือเลยหรือเปล่านั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะมีรายละเอียดเยอะ ต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอตรวจสอบก่อน ที่ตนกล่าวมานั้นพูดถึงหลักการทั่วไปเหมือนคดีอื่นๆ
ทั้งนี้มีรายงานว่า ข้อมูลของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ไทยกับเยอรมัน ไม่มีการสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน มีเพียงสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษที่มีมาตั้งแต่ปี 2536 เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ช่วงที่ ผบ.ตร.เดินทางไปติดตามคุมตัว พระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีในไทยนั้น มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 รักษาราชการแทนในตำแหน่งผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 3-7 มิถุนายน โดยมีรายงานว่า ตามกำหนดเดิม ผบ.ตร.จะเดินทางจากเยอรมัน ในวันที่ 6 มิถุนายน นี้และคาดว่าจะถึงไทยในช่วงเช้าวันที่ 7 มิถุนายน