หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมผบช.กมค. แจงความชัดเจนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ผบช.กมค. แจงความชัดเจนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ตำรวจสามารถจับกุมได้-ยอมรับ มีตำรวจบางนายไม่แม่นข้อกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคลี่คลายความชัดเจน

จากกรณีที่ ส.ส.เอกภพ เพียรพิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จ.เชียงราย อ้างเอกสารจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมหรือดำเนินคดีกับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ทั้งในสถานที่ส่วนตัว และสาธารณะได้ รวมถึงประเด็นความผิดพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242 และ 246 นั้น เมื่อตำรวจจะจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิด ต้องมีคำสั่งจากอัยการที่สั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาในความผิดฐานดังกล่าวด้วยนั้น

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) กล่าวถึงข้อกฎหมายเกี่ยวกับบุหรีไฟฟ้าว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.พ.ร.บ.ศุลกากร เรื่องสินค้าที่เป็นของต้องห้ามนำเข้า 2.พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบเกี่ยวกับการสูบในที่สาธารณะ 3.เรื่องการขาย การให้บริการตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องไม่ให้ขายหรือไม่ให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวน้ำยาด้วย ทั้งนี้มีข้อมูลหนังสือของคณะกรรมาธิการมีการพูดถึงกรรมาธิการหลายคณะด้วยกัน แต่หนังสือที่ผมมีอยู่ในมือขณะนี้มีของคณะกรรมาธิการอยู่คณะหนึ่งที่ได้ทำหนังสือมาหารือข้อเสนอแนะ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การจับกุมเกี่ยวกับเรื่องการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าโดยจับกุมอ้างตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากว่าบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำเข้าราชอาณาจักร จึงไม่อาจผ่านพิธีศุลกากร เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเสียภาษีได้

ทั้งนี้มาตรา 242 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดนำเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของนั้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ หากหมายความง่ายๆ ตามภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า สินค้าหนีภาษี

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการมีความเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีประกาศกระทรวงพาณิชย์เมื่อปี 2557 และปี 2559 ประกาศให้เป็นสินค้าที่ห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ฉะนั้นจะไม่สามารถเสียภาษีได้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดจับกุมและมีการแจ้งข้อหามีไว้ในความครอบครองซึ่งของหนีภาษี ซึ่งมาตรานี้บังคับไม่ได้ แต่ผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความผิดฐาน รับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงข้อกำจัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 244 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่ยอมรับว่าอาจมีตำรวจบางนาย อาจไม่มีความแม่นยำ ซึ่งอาจแจ้งข้อหาผิดพลาด จนนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้อง หรืออาจนำไปสู่การยกฟ้องในชั้นศาลได้ ในส่วนนี้ได้รับมาเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้ถูกต้อง ส่วนการดำเนินการตามกฏหมายตำรวจสามารถ อาศัยอำนาจตามกฏหมายในส่วนนี้สามารถ ดำเนินการได้

หนังสือของกรรมาธิการที่ส่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือมาชี้แจงความเห็นมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายในส่วนนี้ ซึ่งตรงนี้จะทำหนังสือเวียนให้ทราบ กำชับกันอีกครั้งหนึ่งว่าข้อกฎหมายที่จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้มีมาตราใดบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียดของผู้ปฏิบัติ ทั้งนี้ได้มีหนังสือมาถึงตร.เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ในหนังสือได้อ้างถึงมาตรา 242 ทางสำนักงานกฎหมายและคดีแม้จะมีความเห็นว่าสามารถดำเนินการตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 244 ได้ จึงได้ทำหนังสือถึงกรมศุลกากร เพื่อสอบความเห็นของกรมศุลกากรว่า แม้ว่าจะมีประกาศห้ามของกระทรวงพาณิชย์ ยังสามารถดำเนินการตามมาตรา 242 ด้วยได้หรือไม่

“อย่างไรก็ตาม หลังจากจับกุมแล้ว ตามขั้นตอนตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับพนักงานสอบสวน มีความเห็นส่งไปยังศาลเพื่อพิจารณาต่อไป หรือบางกรณีหากผู้เสียหายยินยอมเสียค่าปรับ และเข้าข่ายมีความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พนักงานสอบสวนก็จะส่งไปยังกรมศุลกากรให้พิจารณาอัตราโทษปรับต่อไป” พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img