ตำรวจต้องวิ่งไล่จับใครต่อใคร รายวัน ตามข้อมูล นักแฉ นักร้องเรียน มันใช่หรือ.?
ช่วงนี้ งานเข้าตำรวจ แบบต่อเนื่อง เหมือนจะมีตำรวจบ่มแก็ส บางนายอยากให้องค์กรที่ตัวเองนั่งอยู่ให้เกิดความบอมช้ำ แล้วหาทางขึ้นนั่งบัลลัง พิทักษ์ 1 แทน ก่อนเวลา หรือไม่นั้นก็เป็นเพียงแค่คำวิภาษณ์ จริงหรือไม่ .? (ไม่รู้ ..ไม่รู้ ..!!!) โดยจะสื่อให้เห็นว่ามีตำรวจคนดีมีคุณธรรม มีอยู่แค่ตัวเองคนเดียวเท่านั้นที่เหมาะสม แถมยังใช้มวลชนที่เป็นสื่อในสังกัดเป็นตัวขับเคลื่อน ดูได้จากคดีการจับกุมสถานบันเทิงดังของคนต่างชาติ ลักลอบเปิดยันสว่างคาตา แถมปล่อยให้มียาเสพติดกันแบบโจ่งครึ่ม ประโคมข่าวกันแบบหนังซีรี่เกาหลี ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เสพติดข่าวกันแบบงอมแงม
ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อของการเข้ามารับตำแหน่งของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. คนใหม่ ที่เป็นนายพลตงฉินตัวพ่อ มานั่งเก้าอี้ น.1 สดๆร้อนๆ แถมจมูกใวมาก ว่ามีการลักลอบเปิดสถานบันเทิงฯของกลุ่มเครือข่าย ตู้ห่าว จึงสั่งการพร้อมวางแผนให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนนครบาล นักสืบมือดี ที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.วางตัวให้เป็นมือทำงานให้ น.1 “เจ้าของฉายา เทียนฟง คนตรง 2000 ปี” ลุยสถานบันเทิงที่เป็นเป็นสถานที่อโคจร ที่มีทั้งบ่อนทั้งยาครบเครื่องต้มยำเรื่อง เฮีย..เฮีย.. !!! ที่ น.1 รับไม่ได้ ทั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสส์ ผบ.ตร. เองก็สั่งไฟเขียวให้ลุยให้เรียบทุกที่ ที่เหิมกล้าเปิดท้าทาย ผบ.เด่น กล้าออกมาการันตีว่า ต้องไม่มีบ่อน เคสนี้มันไม่ได้รับข้อมูลจากนักแฉนะ
แต่ต่อมามี นักแฉคนดังเจ้าเก่า” ฉกฉวยจังหวะ ออกมาเขย่าแถลงเปิดหลักฐานโดยอ้างว่าหลักฐานเด็ด โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส.) รับลูกแล้วลุยต่อขยายผล ต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆงานปราบปราบเป็นหน้างานของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. (ปป.) แต่ได้เห็นภาพการทำงานร่วมกันระหว่างหน้างานปราบปราม เดินตีคู่ สืบสวนขยายผล ให้ประชาชนที่นั่งติดตามเคสนี้ด้วยความชื่นชม ที่ระดับ ตร. ลงมาลุยแก็งค์ ตู้ห่าว อย่างจริงจัง
แต่มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย เมื่ออยู่ดีๆ ท่านรองฯ ต่อ ขอลาบวชแบบกระทันหัน แต่ลูกน้องในสังกัดต่างออกมาให้ข่าวกับสื่อว่าเป็นลาราชการใว้ก่อนหน้านี้นานแล้วเพื่อบวชถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ร.9 เนื่องในโอกาสวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญเพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน แต่ไอ้พวก แมงวี่ แมงวัน ก็ยังเอามาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเดียวดาย “ท่านรองฯโจ๊ก “อย่างไรก็ตามสไตล์ “ท่านรองฯโจ๊ก”เองก็มีมือมีเท้านักสืบในสังกัดที่มีฝีมืออยู่หลายคน จึงลุยแก็งค์ ตู้ห่าว แบบกัดไม่ปล่อย จนพี่น้องๆสื่อให้ฉายาว่า “โจ๊ก พลังม้า”แถมงัดเอากฏหมายทุกมาตรามากาง เข้าข่ายข้อใหนผิด มีพยานหลักฐานถึงใหนจัดหนัก จัดเต็มเอาผิดถึงนั่นกันทีเดียว
แต่ “คุณนักแฉคนดัง” ไม่ได้ดั่งใจ ออกมาฟาดงวงฟาดงา ระดมสื่อในสังกัดที่ต้องการเรียกเรตติ้ง แถลงข่าวเปิดหลักฐานรายวัน วนไปวนมา แถมออกมากระทบชิ่งถึง “ผบ.เด่น”เป็นระยะๆผลที่ได้เต็มๆคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระส่ำเกิดวิกฤตศรัทธา ถาโถมเข้าใส่ไม่หยุด จนล่าสุด “ผบ.เด่น”ต้องเปิดห้องเทียบเชิญนักแฉมาร่วมโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง นั่งอธิบายความ เมื่อภาพแบบนี้ออกไป สังคมหลากหลาย ต่างพากันงง …เป็นเป็นไก่ตาแตกไปกัน ..ไม่เป็น เพราะคนที่ได้เครติตไปเต็มๆงานนี้คือ “ท่านนักแฉคนดัง”นั้นเอง เกิดคำถามว่า ภาพองค์กรตำรวจได้อะไรจากการร่วมโต๊ะอาหารแบบชื่นมื่นในครั้งนี้.?
ตัว ประดู่แดง อยากจะบอกบรรดาสื่อที่หลงทาง ทั้งหลายการที่ท่านนำเสนอข่าวเพียงแค่ต้องการเรตติ้ง โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะได้อะไรจากการเสพข่าวจากการนำเสนอของท่านบ้างหรือต้องคิดนะครับ ทุกวันนี้สื่อต้องวิ่งไล่ตาม นักร้องเรียน ทนาย ที่หิวแสงมีเป็นร้อยราย พวกนี้เขาได้ประโยชน์จากกระทำหรือไม่.? ท่านๆสื่อแต่ละท่านย่อมรู้กันดี ที่เอะอะก็จัดทีมมาร้องเรียน อยากพบ ผบ.ตร.ยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานต่างๆเพียงแค่ต้องการให้เป็นข่าว แล้วพวกนักร้องเหล่านี้ก็เติบโต รับทรัพย์ค่าตัว ค่างาน ตามโปรไฟล์ ที่สื่อสร้างขึ้นมาให้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งทุกกองบัญชาการก็สามารถ ร้องเรียนได้ ใหนจะมีผ่านช่องออนใลน์ หรือสำนักงานจเรตำรวจ หน้าที่โดยตรงก็มีอยู่
หันกลับมามององค์กรสื่อเอง นำเสนอดีแผ่ เปิดโปรงขบวนการผิดกฎหมายเยอะแยะมากมายเพื่อต้องการให้ประเทศและประชาชนได้รับความเป็นธรรม มีความสุขสงบมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ตัวสื่อ และองค์กรสื่อเองไม่เคยได้รับการเหลียวแล ฐานเงินเดือนก็น้อยนิด สวัสดิการที่ดีก็แทบจะหาไม่เจอ ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ บ้านต้องผ่อน ลูกต้องเรียนหนังสือ ต้องดูแลพ่อแม่ ครอบครัว แสนจะหดหู่ เป็นอาชีพที่ถูกสาป เฉกเช่นกับอาชีพตำรวจที่ต้องคำสาปที่ถูกเกลียดชัง จากสังคมที่ไร้คุณธรรม อาชีพตำรวจเกษียณ ยังมีเงินบำนาญใช้ไปจนกว่มจะตาย แต่อาชีพสื่อไม่มีหลักประกันให้กับตนเองเลย แต่ด้วยจิตวิญาณที่ต้องการเป็นกระจกส่องให้สังคมรับรู้รับทราบเพื่อรัฐจะได้นำมาแก้ใขเพื่อประโยชน์สุขของสังคมโดยรวม”บ่นซะไปไกล”
“ประดู่แดง” อยากจะบอกนักแฉ นักร้องเรียน ว่า องค์กรตำรวจ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้นมีหน่วยงาน รับรู้ รับทราบ ทุกๆเรื่องราว ทั้งเรื่องทุจริตผิดกฏหมายทุกประเภท และภารกิจหลักของตำรวจ คือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน เพื่อความสงบสุข ของประเทศ “ตำรวจต้อง ทำงานตามกรอบกฏหมายกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ ของ ตร. ไม่ใช่ในแต่ละวันจะนั่งทำงานตามนักแฉ และนักร้องเรียน ข้อมูลที่นักแฉรู้ นักร้องเรียนรู้ ตำรวจเองก็รู้ และอาจจะรู้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ตำรวจต้องเอากฏหมายเป็นตัวตั้ง เอามาตราต่างๆ ออกมากาง สืบหาหาพยานหลักฐาน เพื่อนำมาเข้าในสำนวน แล้วส่งสำนวนต่ออัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลยุติธรรม มันจึงมานั่งแพร่มพูดให้เป็นข่าวไม่ได้ มันมีผลต่อการทำหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฏหมายกำหนดใว้ ไม่ได้ทำตามกระแสสังคม กระแสโซเชียล ไปวันๆ ตำรวจมีหน้าบังคับใช้กฏหมาย นั้นคือถ้ากฏหมายกำหนดใว้อย่างไร ถ้ามีใครฝ่าฝืนที่กดหมายกำหนด มันก็แค่นั้น ไม่ได้ทำงาน ตามใจ นักแฉ นักร้องเรียน นะจ๊ะ ..!!
ในทางกลับกัน ถ้าองค์กรใหนมีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย ต้องทำหน้าที่เช่นเดียวกันกับตำรวจ ทุกคนลองคิดกันเล่นๆนะ ถ้าแก้กฏหมาย ให้ทหาร หรือ รปภ.หรือ พระภิกษุฯ มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย มันก็จบ ตำรวจก็จะไม่ถูกสังคมมองในภาพลบ อีกต่อไป
เพราะฉนั้นโปรดเข้าใจบทบาทหน้าที่ของแต่ละองค์กร ด้วย แต่ยังไงก็ยังเปิดใจยอมรับว่าตำรวจเลวก็มีอยู่ ถึงยังไงก็ยังมีตำรวจดี อยู่มากมาย ขอให้เป็นกำลังใจให้ตำรวจดีๆทุกนายด้วย “ประดู่แดง”ถามหน่อยเหอะนะ ว่าองค์กรของรัฐ หน่วยงานใหนไม่มีคนเลวๆบ้าง ทุกกระทรวง ทบวง กรม มีหมด แม้กระทั่งองค์กรสงฆ์ยังมีให้เห็นรายวันเลย จริงหรือไม่ จ๊ะ..!!