หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบ.ตร." ตั้งเพื่อนร่วมรุ่น นรต.38 เป็นที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ผบ.ตร.” ตั้งเพื่อนร่วมรุ่น นรต.38 เป็นที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคําสั่งสํานักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 552/2565 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใจความว่า

ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งในด้านการปฏิรูปตำรวจ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การสืบสวนสอบสวนคดีอาญา การรักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการทรัพยากรทางการบริหารในทุกด้านเพื่อ รองรับภารกิจดังกล่าว ให้สามารถรองรับการขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่สำคัญให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และ หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0420/42871 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เพื่อปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 3 ราย จึงแต่งตั้งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษา ดังนี้

1.) พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย (นรต.38) เป็นที่ปรึกษาด้านการปฏิรูปตำรวจ โดยมีหน้าที่ ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ การจัดทำกฎลำดับรองและการดำเนินการให้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565, ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจและแนวทาง การประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป, ถ่ายทอดงานให้แก่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ,ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมายตามที่ เห็นสมควร

2.) พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ (นรต.38)เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามการ กระทําความผิดทางเทคโนโลยี โดยมีหน้าที่ ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชา ของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี การประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรธุรกิจเอกชนเพื่อพัฒนาแนวทางการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี พัฒนาองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี, ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป, ถ่ายทอดงานให้แก่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมาย ตามที่เห็นสมควร

3.) พล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ (นรต.38)เป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีหน้าที่ ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานระดับรองลงมาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์ การใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบสวนสอบสวนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม, ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์ การใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบสวนสอบสวน พร้อมทั้งนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อประกอบการพิจารณา ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป, ถ่ายทอดงานให้แก่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือตำแหน่งเทียบเท่า และผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องงานนิติวิทยาศาสตร์, ให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมาย ตามที่เห็นสมควร

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 สั่ง ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2565

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img