นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนฐานรากยังขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่มีต้นทุนต่ำ จึงทำให้ต้องหันไปพึ่งการกู้นอกระบบ กลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ธนาคารออมสินได้เดินหน้าทำธุรกิจบนหลักการเพื่อช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดธนาคารเตรียมเปิดให้บริการสินเชื่อ MyMo – My Credit แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทั้งที่เป็นแรงงานนอกระบบ และมนุษย์เงินเดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้นอกระบบ และอนุมัติเร็วผ่านแอป ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนได้ โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 100,000 ราย จะเริ่มดำเนินการภายใน พ.ย นี้
ด้วยวงเงินปล่อยกู้ในช่วงเริ่มต้นประมาณ 1,000 – 2,000 ล้านบาท และจะขยายต่อไป
สินเชื่อ MyMo MyCredit มีจุดเด่นคือลูกค้าธนาคารออมสินสามารถยื่นสมัครขอสินเชื่อผ่านแอป MyMo ได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารใด ๆ และไม่ต้องใช้หลักประกันในการกู้ เพียงกรอกเลขที่และข้อมูลบัตรประชาชน และธนาคารไม่คิดค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ โดยธนาคารจะใช้ข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้า (Financial Transaction) มาประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ แทนการวิเคราะห์รายได้ เรียกว่า Alternative Credit Score ซึ่งหากลูกค้าผ่านเกณฑ์การพิจารณาก็จะสามารถสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีให้กับตัวเอง ที่เรียกว่า My Credit โดยลูกค้าสามารถทำสัญญาเงินกู้บนแอป MyMo และรับเงินโอนเข้าบัญชีโดยตรง จากนั้นการจ่ายเงินงวดทำได้โดยธนาคารจะหักจากบัญชีเงินฝากเมื่อครบกำหนดชำระในแต่ละงวดโดยอัตโนมัติ เป็นการอนุมัติสินเชื่อผ่านแอป (Digital Lending) ตลอดทั้งกระบวนการ โดยลูกค้าไม่ต้องไปติดต่อธนาคาร ทั้งนี้ จะเริ่มทดสอบให้วงเงินสินเชื่อได้รายละ 10,000 – 30,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1.25% ต่อเดือน
ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าอยู่ทั้งสิ้น 13 ล้านราย
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนเตรียมตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้าทำธุรกิจ Non Bank เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการปล่อยสินเชื่อเร่งด่วนสำหรับลูกค้าบุคคล ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธุรกิจ Non Bank รายอื่น เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินด้วยต้นทุนที่เป็นธรรม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมยื่นขอใบอนุญาตทำธุรกิจ Non Bank กับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวปลายปี 2566