ชายนิรนามทราบข่าว ทิปตอบแทนความดี 10,000 บาท ที่สร้างชื่อให้ประเทศ

วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 09:00 น. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผย ว่า เมื่อวานนี้ 10 ส.ค. 2565) ที่ผ่านมา เวลา 1600 น. นายชนะ สังข์น้อย อายุ 48 ปี พนักงานขับรถรับส่งนักท่องเที่ยวบริษัทแอ็กคอมได้พบกระเป๋าเงินบริเวณถนนสายบ่อผุด-บางรักษ์ โดยในกระเป๋าดังกล่าวประกอบไปด้วย เงินสดจำนวน 13,720 บาท,ใบขับขี่, และบัตรเครดิต จำนวน 5 ใบ นำมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยเพื่อให้ติดตามหาเจ้าของกระเป๋าเงิน

ต่อมา พ.ต.ท. พุฒิพงศ์ วงศ์วัฒนเดช รักษาการสารวัตรท่องเที่ยวเกาะสมุย พร้อมด้วย ร.ต.อ. วรรณะ ศรีสะระ, ร.ต.ต.สิทธิทัศน์ แสงมณีธรรม, ด.ต.สุทัศน์ ขาวเรือง, ด.ต.สุพจน์ พงศ์ไทย, ด.ต.เอกมนต์ รักษาวงศ์ และส.ต.อ. วิทวัส อิ่มคำ ได้รับไว้กระเป๋าเงินพร้อมบัตรดังกล่าวทั้งหมดไว้

เมื่อตรวจสอบจากใบขับขี่พบเป็นชื่อ Miss Carole Montana สัญชาติบริติช จึงได้รีบประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำเกาะสมุยทันที และพบว่ามีชื่อนักท่องเที่ยวดังกล่าวเข้ามาพักที่เกาะสมุยตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2565 โดยพักอยู่ที่ The Bay Condominium เลขที่ 20/43 หมู่ 4 ตำบลบ่อผุด และมีกำหนดจะออกจากเกาะสมุยวันที่ 22 ส.ค.2565 จึงพร้อมด้วยนายชนะฯ พนักงานขับรถผู้พบกระเป๋าเงินเดินทางไปยังสถานที่พักดังกล่าวทันที

ทันทีที่พบ Miss Carole Montana และสอบถามก็พบว่า เจ้าตัวได้ทำกระเป๋าพร้อมบัตรเครดิตทั้งหมดหายจริงโดยไม่ทราบว่าหายที่ไหน ตำรวจท่องเที่ยวจึงส่งมอบกระเป๋าเงิน ใบขับขี่และบัตรเครดิตทั้งหมดคืนให้พร้อมอธิบายว่าพบเจอทรัพย์สินทั้งหมดนี้ได้อย่างไร

ทันทีที่ Miss Montana ได้ทรัพย์สินทั้งหมดคืนถึงกับร้องว้าว! ด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง และกล่าวชื่นชมนายชนะฯ และตำรวจท่องเที่ยวอย่างมากที่สามารถนำทรัพย์สินของตัวเองทั้งหมดที่หายไปโดยไม่คิดว่าตัวเองจะได้คืน กลับมาคืนได้อย่างครบถ้วน ด้วยความชื่นชมและความดีใจนี้ จึงได้มอบเงินจำนวน 2,000 บาทเป็นรางวัลให้กับนายชนะฯ ผู้พบทรัพย์สินทั้งหมดแล้วนำมาคืน และขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวโดยยืนยันว่า จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก
ต่อมาเรื่องดังกล่าวได้ทราบถึงประชาชนท่านหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนามได้โทรมาสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น และเกิดความประทับใจในการทำความดีของนายชนะฯมาก ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย จึงขอมอบเงิน 10,000 บาทเป็นรางวัลในการทำความดีให้กับนายชนะฯ ผ่านมายังตำรวจท่องเที่ยว โดยขอให้ตำรวจท่องเที่ยวนำเงินจำนวนนี้มอบให้นายชนะฯ และฝากขอบคุณนายชนะฯ ในนามของคนไทยทุกคนจากการทำความดีสร้างชื่อเสียงให้คนไทยในครั้งนี้ด้วย ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยจะได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยยังความปลาบปลื้มต่อนายชนะฯและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

พล.ต.ต. อภิชาติฯ กล่าวต่อท้ายว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อการท่องเที่ยวของไทย โดยอธิบายว่า ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากจากหลายประเทศทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าวให้ได้ทรัพย์สินมีค่าที่หายไปแล้วกลับคืนมาได้ครบถ้วนหลายกรณี ซึ่งล้วนสร้างความประทับใจให้กับนักท่องต่างชาติแทบทั้งสิ้น ทุกคนยืนยันเป็นเสียวกันว่า จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกเพราะประทับใจมาก
สิ่งที่คนไทยหลายคนได้ทำดีไปทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว รวมถึงการกระทำอันทรงคุณค่าของนายชนะฯ และตำรวจท่องเที่ยวสมุยในครั้งนี้ ได้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและบรรยากาศอันน่าประทับใจต่อการท่องเที่ยวไทยได้อย่างดียิ่ง นี่คือปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดได้ง่ายเลยสำหรับนักท่องเที่ยวที่สูญเสียกระเป๋าเงินและบัตรเครดิตของตัวเองไปแล้วได้คืนกลับมาครบถ้วนโดยเงินไม่หายแต่บาทเดียว แต่เรื่องดีๆ แบบนี้ก็เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งในประเทศไทยโดยคนไทยที่มีคุณภาพและการประสานงานของตำรวจท่องเที่ยว
“ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยวทุกคน ขอขอบคุณนายชนะ สังข์น้อย และประชาชนผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่มอบรางวัลให้กับนายชนะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการกระทำที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนไทยทุกคนจะร่วมกันสร้างความประทับใจแบบนี้ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจท่องเที่ยวและมีรายได้เข้าประเทศได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในห้วงเวลาของการเปิดประเทศอย่างแน่นอน ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวทุกคนพร้อมเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนสำหรับการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและการเป็นเจ้าภาพที่ดี และพร้อมเสมอที่จะประสานงานทำให้ความประทับใจนี้เป็นผลรูปธรรมและเป็นที่รับรู้ของนานาชาติให้เร็วที่สุด ตำรวจท่องเที่ยวเพื่อนแท้การเดินทางคนแรกของคุณเสมอ” โฆษก บช.ทท.กล่าว