หน้าแรกการเมือง'กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง' เดินหน้าลุยบุกทำเนียบ-เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังแน่นไม่ให้ขยับ

‘กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง’ เดินหน้าลุยบุกทำเนียบ-เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังแน่นไม่ให้ขยับ

ที่ถนนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยใช้พื้นที่ 1 ช่องทางจราจร มีการถือป้ายผ้าสีขาว และแผ่นป้ายเขียนข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียกร้องสิทธิต่างๆ และแสดงความประสงค์ที่จะขับไล่รัฐบาล คสช. ให้พ้นอำนาจ

ต่อผู้ชุมนุม ได้ตั้งแถวอยู่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่เปิดทางให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลได้ โดยระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมมีปราศรัยสวนไปมากันอยู่ตลอดเวลา ในเวลาต่อมา ขบวนยังไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไกลกว่าประตูหอประชุมใหญ่ เนื่องจากถูกสกัดโดยเจ้าหน้าที่ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งลงจากรถไปเจรจา นายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยประกาศว่าไม่เกิน 10.00 น. ต้องฝ่าด่านนี้ไปให้ได้

ต่อมา เวลา 09.45 น. นายรังสิมันต์ โรม แจ้งผลการเจรจาซึ่งไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า ตนพยายามรักษาไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง สำหรับการที่มีการอ้างคำสั่งคสช. เรื่องห้ามชุมนุมนั้น ตนไม่เคยถือว่าคำสั่งคสช. เป็นกฎหมายอยู่แล้ว เพราะมาจากการรัฐประหารจึงไม่ให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำอย่างถูกต้อง โดยแจ้งแล้วว่าจะมีการชุมนุม แต่กลับมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ พวกตนพยายามเจรจา พยายามคลี่คลายสถานการณ์ ไม่อยากเห็นความรุนแรง สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนเข้าใจดี เพราะตำรวจไม่มีทางเลือก นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า ยังมีประชาชนอีกราว 200 คนที่ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ชุมนุมได้

บรรยากาศการชุมนุมเริ่มร้อนแรงขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถติดเครื่องขยายเสียงมาจอดบริเวณสนามหลวง พร้อมกล่าวตีคู่ไปกับการปราศรัยของกลุ่มคนเลือกตั้ง ใจความว่า ขอให้ยุติการชุมนุม เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง ที่อาจมีกลุ่มฮาร์ดคอหรือมือที่สามสร้างสถานการณ์ และยุติการทำให้จราจรติดขัด พร้อมทั้งนำความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุม คำสั่งคสช. และคำสั่งศาลปกครองที่ไม่คุ้มครองชั่วคราว มาอ้างเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนมเกรงกลัว ทำให้เกิดความไม่พอใจ ผู้ชุมนุมต่างโห่ร้องเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการกระทำ ส่วนผู้ชุมนุมก็ปราศรัยตอบโต้โดยยืนยันการใช้สิทธิเสรีภาพในการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงจุดยืนตามเดิม และพร้อมกลับบ้านเมื่อเสร็จกิจกรรม

จากนั้นผู้ชุมนุมเริ่มตั้งขบวนบริเวณประตู 3 ด้านหอประชุมเล็กติดสนามหลวง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีรถติดเครื่องขยายเสียงคอยปราศรัย ส่วนผู้ชุมนุมมีการชูป้ายข้อความโจมตีความล้มเหลวของคสช.นับตั้งแต่การทำรัฐประหารตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น ‘คสช.คือเผด็จการปล้นประชาชน’ ‘ประเทศไทยรังเกียจเผด็จการ’ นอกจากนี้ ยังมีการชูหีบเลือกตั้งจำลอง สะท้อนข้อเรียกร้อง ก่อนจะเริ่มเคลื่อนออกมาถนนด้านหน้าม.ธรรมศาสตร์ แต่ต้องติดแนวรั้วกั้นและเจ้าหน้าที่กองร้อยน้ำหวานกว่า 1 กองร้อยยืนเรียงหน้ากระดานขวางไว้ ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมจึงปักหลักรอบนฟุตปาธ โดยมอบหมายให้นายรังสิมันต์ ไปเจรจา ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาทียังไม่ได้ข้อยุติ

เมื่อ เวลา 10.00 น.  กลุ่มคนอยากเลือกตั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน สกัดกั้นอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยไม่สามารถเคลื่อนขบวนมวลชนประมาณ 300 คนไปยังทำเนียบรัฐบาลได้ ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง  เผยว่าพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาแต่กลับไม่ยอมลงมาเจรจาด้วย  จึงตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วกิจกรรมจะจบอย่างไร เบื้องต้นต้องปักหลักบริเวณนี้ไปก่อนเพื่อรอการเจรจา

ต่อมาระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เพื่อรอการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับรายงานว่า มีหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งเกิดเป็นลมหัวฟาดพื้น  ทำให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมอาทิ นายรังสิมันต์ และนายสิรวิชญ์ ได้ขึ้นไปรถปราศรัยเรยกร้องขอรถพยาบาลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งรถพยาบาลไปยังที่เกิดเหตุ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามแจ้งเตือนผู้ปราศรัยว่าเราได้บันทึกเสียงไว้หมดแล้ว อย่าพยายามพูดยั่วยุให้เกิดความุรนแรงขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการไม่ยอมลงมาเจรจาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มวลชนกลุ่มคนอยากเลือกตั้งตะโกน โห่ร้องด้วยความไม่พอใจ บางคนบ่นว่า นายรังสิมันต์ พยายามจะเจรจากับเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาไม่ยอมลงมาเจรจาด้วยกลับยืนเล่าเรื่องออเจ้าจากละครบุพเพสันนิวาสแทนเฉยเลย

เมื่อ เวลา 10.20 น.  นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมี พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผู้กำกับสน.ชนะสงครามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ได้ใช้เวลาในการเจรจากันประมาณ 10 นาที โดยที่ พ.ต.อ.จักรกริศน์ เปิดเผยว่าจากการเจรจากับแกนนำ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงถึงข้อกฎหมายสิ่งที่สามารถทำได้ไม่สามารถกระทำได้สิ่งใดที่ขัดต่อคำสั่งคสชที่ 3/2558 และพรบ.การชุมนุมจากการเจรจาดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีจะใช้ความรุนแรง การเจรจาครั้งนี้ได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าตำรวจถอย 5 ก้าวส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องถอย 5 ก้าวเปิดพื้นที่ในการเจรจา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะไม่ให้มีการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลแน่นอน

พ.ต.อ.จักรกริศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเจรจากับกลุ่มแกนนำได้มีท่าทีที่อ่อนลงและต้องการเคลื่อนผู้ชุมนุมไปถึงแค่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้มีการเคลื่อนแต่อย่างใด

เมื่อ เวลา 11.00 น. ระหว่างการเผชิญหน้าของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน บริเวณถนนหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีรายงานว่า นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว หนึ่งในแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เกิดหมดสติหน้ามืดเป็นลมทรุดตัวลงกับพื้น โดยกลุ่มผู้ชุมนมได้ทำการดูแลเบื้องต้น ด้วยตะโกนขอน้ำ กับยาดม เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทั้งนี้อาการดังกล่าวสืบเนื่องจากที่นายสิรวิชญ์  ปักหลักชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฝั่งหอประชุมเล็กทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อน


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img