วันที่ 14 มีนาคม 2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับหน่วยทหารทั่วประเทศ โดยได้ขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติงานในกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก รวมถึงในพื้นที่ จชต. ที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เป็นผลให้สามารถตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองได้ในทุกวัน ซึ่งภายหลังนำเรียนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบ ได้แสดงความห่วงใยและขอบคุณในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถ โดยในห้วง 3 วันที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้จับกุม รวม 626 คน แยกเป็นสัญชาติกัมพูชา 34 คน สัญชาติเมียนมา 577 คน ไทย 4 คน พร้อมผู้นำพา 11 คน
ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวชื่นชมกำลังพลสายแพทย์ทุกนายตลอดจนหน่วยทหารของกองทัพบกในทุกพื้นที่ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลดูแลประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ อาทิ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 12 แห่ง โรงพยาบาลค่ายสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 การสนับสนุนการล้างสิ่งปนเปื้อนเพื่อขจัดการแพร่ระบาดของโรค ตามโรงเรียน ชุมชน ส่วนราชการ ล่าสุด คือ การสนับสนุน สปสช. ตั้งศูนย์รับแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน 1330 ช่วยผู้ติดเชื้อโควิดเข้าถึงระบบการรักษา เป็นต้น ทั้งนี้ กำชับให้ผู้บังคับหน่วยดูแล สร้างความเข้าใจกับกำลังพลอย่างสม่ำเสมอ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขและ ศบค.-19 ทบ. ในการปฏิบัติหน้าที่ลักษณะต่างๆ เพื่อให้ปลอดภัยจากโควิดและพร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกเหตุการณ์
นอกจากนี้ที่ผ่านมา กองทัพบกได้ส่งกำลังพลเข้าช่วยซ่อมแซมบ้านเรือน คลี่คลายอุทกภัยและวาตภัย ใน 16 จังหวัด รวมทั้งได้ส่งกำลังพลแจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค ตามโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ในพื้นที่ทุรกันดารตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 รวม 527,000 ลิตร ที่สำคัญคือ กองทัพภาคที่ 3 ได้บูรณาการทุกภาคส่วนเข้าแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ จัดชุดรณรงค์สร้างการรับรู้ป้องกันไฟป่า, เข้าควบคุมไฟป่าและไฟไหม้, สร้างแนวกันไฟ ฝายชะลอน้ำและลาดตระเวนป้องปรามการลักลอบกระทำผิด ทำให้ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2565 ดีขึ้น โดยจุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564 ถึง 64 เปอร์เซ็น ทั้งนี้การช่วยเหลือประชาชนในทุกรูปแบบถือเป็นการทำความดีช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร
การประชุมวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับกำลังพลตามนโยบายของรัฐบาล กำชับผู้บังคับหน่วยดูแลช่วยเหลือด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะการคัดกรองกำลังพลที่มีหนี้สิน ให้คำปรึกษา นำเข้าสู่การช่วยเหลือตามระบบที่กองทัพบกจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อลดภาระหนี้ไม่ให้เกิดผลเสียหายร้ายแรง หรือกระทบต่อการปฏิบัติงาน โดยให้กรมสวัสดิการทหารบกพิจารณาการพักชำระหนี้ในการกู้ยืมจากกิจการออมทรัพย์ พร้อมจัดตั้ง “คลินิกการเงิน” ให้คำปรึกษาด้านหนี้สินของกำลังพล และการประนอมหนี้ควบคู่ไปด้วย สำหรับกรณีประชาชนร้องเรียน “พันเอก” หลอกให้เสียทรัพย์เพื่อเข้ารับราชการ โดยกรมยุทธศึกษาทหารบกได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้กรมกำลังพลทหารบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบสวนเพิ่มเติมและเร่งรัดให้ดำเนินการได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด
