หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม“ผู้การฯ เม่น" นำทีม ศปอส.ตร. รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน คาคอนโดหรูกลางกรุงฯ หนีซุกไทย ตั้งเครือข่าย พนันออนไลน์...

“ผู้การฯ เม่น” นำทีม ศปอส.ตร. รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน คาคอนโดหรูกลางกรุงฯ หนีซุกไทย ตั้งเครือข่าย พนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการ ของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.ได้กำชับ เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด นั้น

วันนี้ ตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม , พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.สตม. ร่วมกับ บช.ทท. และ ศปอส.ตร. ได้เข้าปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน รวม 10 ราย ตามที่ ศปอส.ตร.(PCT) ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาหลบหนี คดีฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์ หรือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ชาวจีน จำนวน 17 ราย โดยมีกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นผู้ประสานการปฏิบัตินั้น

ซึ่งคดีนี้ จากการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนหลบหนีคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร. (PCT) ได้สืบทราบจนพบตัวผู้กระทำความผิดที่หลบหนีเข้ามาพำนักในประเทศไทย และได้ขอศาลอนุมัติหมายค้น ทั้ง 4 จุด

เบื้องต้นพบตัวผู้กระทำความผิด พร้อมของกลาง ที่คอนโดมิเนี่ยมแห่งหนึ่ง มีดังนี้ (1.) ผู้ต้องหา จำนวน 10 ราย เป็นบุคคลตามหมายจับจีน จำนวน 6 ราย, (2.) คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 19 เครื่อง, (3.) โทรศัพท์มือถือ 79 เครื่อง, (4.) ซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 167 อัน, (5.) อุปกรณ์กระจายสัญญาณ , เครื่องส่งโอทีพี , อุปกรณ์ Token ที่ใช้ทำเว็บพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ, (6.) นาฬิกาหรู จำนวน 14 เรือน, (7.) สมุดบัญชี จำนวน 10 เล่ม, (8.) รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน

โดยพบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้มีการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ร่วมด้วย และพบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ราย โดยชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร.(PCT) จะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ต่อไป โดยทาง สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่www.immigration.go.th”พล.ต.ต.พันธนะ “กล่าว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img