เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือชี้แจง มีใจความระบุว่า :”ตามที่มีการนำเสนอข่าวโดยสื่อมวลชนบางสำนักว่า ศาลจังหวัดพัทยามีคำสั่งให้ปล่อย นายจั๋ง หยาง ผู้ต้องหาชาวต่างชาติกับพวก ในข้อหาอุกฉกรรจ์ และอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เนื้อหาของการนำเสนอข่วระบุทำนองว่ากระบวนการเพิกถอนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีการรับลูกจากผู้เกี่ยวข้องอย่างเร่งรีบ จนเป็นเหตุให้ผู้ ต้องหาขาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปได้ สำนักงานศาลยุติธรรม ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องตันแล้ว เห็นว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวยังมีความคลาดเคลื่อน อาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิดแก่สังคม จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

คดีกลุ่มดังกล่าว ยังไม่เข้าสู่ศาลในชั้นพิจารณา โดยอยู่ในชั้นสอบสวน สำนวนแรกเป็นคดีระหว่างพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรห้วยใหญ่ ผู้ร้อง กับ นายจั๋ง หยาง (Mr.Zhang Yang) ผู้ต้องหาในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อาวุธปีน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง ซึ่งคดีนี้มีข้อหาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งขังผู้ต้องหาหลาย ๆ ครั้งติดๆ กันได้แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกิน 12 วัน รวมทั้งหมดต้องไม่เกิน 84 วัน ในระหว่างพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยศาลมีคำสั่งให้วางหลักประกันเป็นเงินสด 1 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาเรื่อยมา จนกระทั่งในการฝากขังครั้งที่ 7 พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เนื่องจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 อันเป็นวันครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 6 ตรงกับวันเสาร์เป็นวันหยุดราชการ พนักงานสอบสวนขอฝากขังผู้ต้องหาต่อตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่12 สิงหาคม 2564
ศาลจังหวัดพัทยามีคำสั่งอนุญาตตามขอผลจากการยื่นคำร้องขอฝากขังและคำสั่งอนุญาตดังกล่าวส่งผลให้ศาลจังหวัดพัทยามีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาประกันเพียงถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2564 หากไม่มีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาภายในกำหนดดังกล่าว ผู้ต้องหาจะพ้นจากอำนาจของศาลไปโดยผลของกฎหมาย แต่ไม่ตัดสิทธิเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องที่จะนำตัวผู้ต้องหามาฟ้องต่อศาลภายในกำหนดอายุความต่อไป
ฉะนั้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 64 เป็นวันหยุดราชการ จึงต้องมีการฟ้องผู้ต้องหาภายในเวลาราชการของวันที่ 11 สิงหาคม 2564 พนักงานสอบสวนมิอาจยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อไปใด้อีก เพราะจะเป็นการเกินกำหนดระยะเวลา การฝากขังตามกฎหมาย แต่เมื่อหมดเวลาราชการของวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ไม่ปรากฎฏว่ามีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยต่อศาล

ดังนั้นเมื่อถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ซึ่งล่วงเลยกำหนดฝากขังศาลจังหวัดพัทยาจึงไม่มีอำนาจตามกฎหมายเหนือตัวผู้ต้องหาอีกต่อไป
ต่อมาวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ทนายความของผู้ต้องหายื่นคำร้องขอเฟิกถอนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ศาลจังหวัดพัทยาจึงต้องมีคำสั่งอนุญาตและมีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรณีมีได้เป็นการเพิกถอนคำสั่งในทันทีหรือมีการรีบเร่งจนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรดังที่ปรากฏในข่าว การดำเนินการต่าง ๆ ของศาลจังหวัดพัทยาจึงเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ
สำหรับสำนวนคดีที่ 2 และสำนวนคดีที่ 3 เป็นการจับกุมนายเหวินเผิง เชิง (Mr.Sheng Wenpeng) และนางสาวเว่ย เฉิน หมิน (Ms.Wei Chengmin) ได้ในภายหลัง จึงเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมกับนายจั๋งหยาง และพนักงานสอบสวนไม่ได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานมาด้วย ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวโดยวางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 1 แสนบาท ทั้งสองสำนวนมีการขอฝากขังมาโดยตลอด แต่เมื่อครบกำหนดฝากขัง 84 วันแล้ว โดยครบกำหนดต้องฟ้องนายเหวินเผิง เชิง ในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 และครบกำหนดต้องฟ้องนางสาวเว่ย เฉิน หมิน ในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ไม่ปรากฏว่ามีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาล ศาลจังหวัดพัทยาจึงไม่มีอำนาจเหนือตัวผู้ต้องหาทั้งสองเช่นกัน
ต่อมาวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ทนายความของผู้ต้องหาทั้งสองยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งห้ามผู้ต้องหาออกนอกประเทศศาลจังหวัดพัทยา จึงต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งตามขอ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบทุกประการเช่นกัน ส่วนที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายเหวินเผิง เชิง ไปยื่นคำร้องขอรับทรัพย์สินที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลางคืนหลังจากที่พ้นจากอำนาจศาลไปแล้ว เป็นขั้นตอนระหว่างพนักงานสอบสวนและผู้ต้องหา จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ “หนังสือชี้แจงฉบับดังกล่าว ระบุ