ที่ศาลาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับวันเกิดปีนี้ได้มาทำบุญ สวดมนต์ ฟังธรรม และเจริญจิตตภาวนา ซึ่งพระคุณเจ้าบอกว่าให้เราคิดดี ดังนั้นจึงขออัญเชิญพระราชดำรัสของร.9 ให้คิดดี พูดดี ทำดีต่อกัน และอยากให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เพื่อเป็นของขวัญให้คนไทยได้มีความสุขมากๆ และนอกจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีการออกกฎหมายหลายฉบับ รวมถึงเรื่ององค์กรอิสระ
“ดังนั้นการคืนสู่ประชาธิปไตยจะต้องคืนด้วยความจริงใจ เป็นประชาธิปไตยที่คืนโอกาสให้กับประชาชน ที่สำคัญคือ ต้องยึดโยงประชาชนเป็นศูนย์กลาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการดีไซน์รัฐธรรมนูญและกฎหมายโดยไม่ยึดโยงกับประชาชน จึงห่วงว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นประชาธิปไตยเพียงแค่เปลือก แต่แก่นไม่ใช่ ซึ่งจะไม่แก้ปัญหาให้ประเทศและประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ต่อกรณีที่จำนวนสมาชิกพรรคการเมืองแต่ละพรรคลดลงอย่างมากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่แปลกใจ เพราะประชาชนที่ไปพบหลายคนก็บอกว่าไม่ได้มายืนยันสมาชิกเพราะรู้สึกว่า ใจยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ซึ่งรูปแบบไม่สำคัญเท่ากับจิตใจที่ยังมั่นคงอยู่ ทุกพรรคก็คงประสบปัญหาในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ โดนดูดด้วยหรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ได้ทำท่าดูดปากพร้อมกับกล่าวว่า “ต้องใช้หลอดดูดไหม” ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า นายกฯ บอกว่าท่านไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น คุณหญิงสุดารัตน์จึงตอบว่า “กลัวจะเป็นรถสีเหลืองๆ น่ะสิ”
ส่วนพลังดูดจากฝ่ายผู้มีอำนาจนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เป็นการเลือกใช้วิธีการแบบนักการเมืองโบราณ คงไปบังคับไม่ได้ แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเอง ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่กทม.นั้น เท่าที่ได้ยินจากน้องๆ ว่ามีข้อเสนอมาบ้าง แต่เขายืนยันว่าจะอยู่กับพรรค ไม่ไปไหน เพราะการทรยศประชาชนและอุดมการณ์ของตัวเองเป็นเรื่องที่เขาลำบากใจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นคงต้องมองไปข้างหน้า รักษาจุดแข็ง โดยเป็นพรรคที่คิดค้นนโยบายในการแก้ปัญหาให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข และนำนโยบายของตัวเองไปสู่การปฏิบัติได้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ระบุว่าการดูดเป็นครรลองประชาธิปไตย คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ที่อ้างว่านักการเมืองเลวร้ายจนต้องเข้ามาปฏิรูปนั้น ต้องถามกับประชาชนว่า 4 ปีที่ผ่านมาของคสช. ประชาชนได้อะไร