นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Pat Hemasuk‘ กล่าวถึงคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ว่า หลังจากที่ผมอ่านเรื่องกรมอุทยานฯ ตั้งกรรมการคิดค่าเสียหายทางแพ่ง ฟ้อง”เปรมชัย” ยิงเสือดำ 12 ล้าน วันนี้ผมอยากจะพูดถึง ค่าเสียหายเชิงลงโทษ (Punitive Damages) ที่หลายประเทศมีใช้กันนานแล้ว แต่ไทยยังไม่มีกฎหมายแบบกำหนดตรงๆ ยกตัวอย่างของอังกฤษและอเมริกามีกฎหมายคอมมอนลอว์ที่บังคับใช้ให้อำนาจศาลพิจารณาปรับเงินหรือมีคำพิพากษาเพิ่มเติมอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากที่ต้องจ่ายตามความเสียหายที่จำเลยที่ได้เสียหายไปแล้วหรือความเสียหายต่อรัฐพึงจะได้
นายภัทร กล่าวต่อไปว่า กฎหมายตัวนี้ทำเพื่อให้เกิดความหลาบจำโดยทั้งคนรวยและคนจนมีผลเท่ากัน เช่น คนจนตั้งโต๊ะขายของล้ำทางเท้าโดนปรับ 500-1000 บาทคงสะเทือนกระเป๋าแน่นอน แต่คนรวยกว่าที่สามารถสร้างกำไรจากการตั้งโต๊ะหน้าร้านตัวเองบนทางเท้าได้กำไรเพิ่มขึ้นวันละหมื่น ต่อให้โดนปรับทุกวันก็ไม่สะเทือนเพราะคิดว่าเป็นค่าเช่าที่วางโต๊ะรายวันก็ยังได้ แต่ถ้ามีกฎหมายตัวนี้ศาลอาจจะสามารถเพิ่มค่าเสียหายเชิงลงโทษที่ทำให้ประชาชนคนเดินเท้าต้องลงไปเสี่ยงภัยลงไปเดินบนถนนเป็นวันละสามหมื่น แบบนี้คนรวยกับคนจนจะกลัวกฎหมายตัวเดียวกันในระดับที่เท่ากัน ในสมัยโบราณของไทยนั้นจะมีการปรับตามศักดินา ในโทษที่มีความผิดเดียวกัน ไพร่อาจจะโดยไม่มาก แต่ถ้ามีศักดินาสูงแล้วไปทำผิดโดนปรับหัวโตเลยก็มีในอดีต เพราะถ้าคนจนโดนปรับ 1 ตำลึงนั้น ความเป็นอยู่ในครอบครัวถึงจะเป็นจะตายไปทั้งปีเลยก็ได้ แต่สำหรับเศรษฐีนั้นไม่สะเทือนอะไร ทำผิดแบบเดิมปีละสิบครั้งก็ยังได้ แต่ถ้าโดนปรับร้อยตำลึงตามศักดินาแทน คราวนี้คนรวยกว่ามีอาการเจ็บเท่ากันแน่นอน
หลายๆ คนคงเคยอ่านข่าวต่างประเทศที่ศาลสั่งปรับบริษัทรถยนต์ที่โฆษณาคุณสมบัติของรถที่เกินจริงหลายร้อยล้านดอลล่า ปรับบริษัทน้ำมันที่ทำน้ำมันรั่วลงทะเลเป็นพันล้านดอลล่า นั้นไปเอาตัวเลขมาจากไหน ถึงเวลานี้ก็คงเข้าใจแล้วว่าถ้าปรับตามความเสียหายจริงบริษัทพวกนี้ไม่สนใจ ทำผิดเหมือนเดิมอีกสิบครั้งก็ยังได้ แต่ถ้าโดยปรับค่าเสียหายเชิงลงโทษเป็นร้อยล้านหรือพันล้านดอลล่าแล้วความกลัวจะบังเกิดขึ้นทันที
“เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน เงินสิบสองล้านบาทค่าล่าเสือดำนั้นไม่สะดุ้งสะเทือนคนระดับมีเงินเป็นหมื่นล้านสักเท่าไร ซื้อรถหรูได้ยังไม่ถึงครึ่งคันเลยเสียด้วยซ้ำ ยิงอีกสิบตัวก็ยังได้ถ้าโดนปรับเท่านี้ (ถ้าสมมุติว่าไม่ต้องคิดถึงเรื่องคดีอาญาที่ยังต้องติดคุกตามมาด้วยนะครับ เป็นตัวอย่างสมมุติเท่านั้น) แต่ถ้ามีกฎหมายนี้การปรับเชิงลงโทษ (Punitive Damages) ตามฐานะของเศรษฐีคนนั้น อาจจะเป็นค่าชีวิตเสือเชิงลงโทษพันห้าร้อยล้านบาทก็ได้ คราวนี้เศรษฐีหมื่นล้านคงต้องคิดหนักแล้วว่าจะทำผิดแบบเดิมอีกหรือเปล่าในครั้งหน้า”
[fb_pe url=”https://www.facebook.com/von.richthofen.7/posts/1877558288954440″ bottom=”30″]