นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 มีมติเสียงข้างมากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 3 ฝ่าย มาศึกษาร่วมกันก่อนรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ โดยกำหนดเวลาศึกษา 30 วัน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าร่วมด้วยนั้น เพราะไม่มีอะไรมายืนยันเลยว่า การซื้อเวลาในการศึกษาก่อนลงมติ จะยกมือรับหลักการหลังมีการศึกษาจาก 3 ฝ่ายแล้วผ่าน ขอถามตรงๆ ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างไร การเล่นเกมซื้อเวลาของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 อย่างเต็มที่ ทั้งๆ ที่ประชาชนต้องการความชัดเจน นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกไม่ได้ จะยื่นได้ครั้งคือช่วง พ.ค.-ก.ย.64 การประวิงเวลาในครั้งนี้ไม่ใช่เพียง 30 วัน ร้ายที่สุดที่ฝ่ายการเมืองจะไม่สามารถยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อีก นานกกว่า 1 ปี
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมองว่าต้องมีคำรับรอง เช่น พรรคร่วมรัฐบาลให้คำมั่นกับประชาชนว่า ถ้าไม่ผ่านจะถอนตัวกับการร่วมพรรครัฐบาล หรือพรรครัฐบาลรับรองว่าถ้าไม่ผ่านจะยุบสภา ต้องมีคำรับรองที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคประกาศจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายเลือกที่จะเห็นด้วยกับผู้มีอำนาจที่จะเลือกอยู่ข้างผู้มีอำนาจมากกว่าเลือกประชาชน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติเดินหน้าในการติดตามการทำงานของคณะกรรมาธิการอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นความหวังของประชาชน การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านยื่นก็มาจากความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นประเทศเดินหน้า ไม่ได้แก้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใด แก้เพื่อประชาชนนักการเมืองที่ดีควรทำเพื่อประชาชนไม่ใช่ผู้มีอำนาจ