ุวันที่ 26ต.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3. บก.ป.พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ป. สั่งการให้
พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3.บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายเดชณรงค์ นันท์เจือ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 66 หมู่ที่ 5 ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 212/2562 ลง 25 ก.ย.62 คดีอาญาที่ 462/2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งไม่ไช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ”ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ “รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา”
ตามที่ผ่านมา ผบช.ก. และ ผบก.ป. ได้มอบนโยบายให้เร่งรัดระดมหมายจับคดีทางเพศทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. ได้ให้ความสำคัญกับคดีเกี่ยวกับเพศซึ่งเป็นภัยอัตรายต่อสังคมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามเพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายเดชณรงค์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งกระทำผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งไม่ไช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” หลังก่อเหตุได้หลบหนีมาทำงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี
จว.นนทบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3.บก.ป., ร.ต.ท.วิรัช เกิดผล รอง สว.(ป) กก.3 บก.ป., ด.ต.สุริยา โพธิ์ศรี ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นภัยอันตรายกับสังคม โดยผู้เสียหายในคดีนี้เป็นหลานสาวแท้ ๆชื่อน้องน้ำ (นามสมมุติ) มีอายุเพียง 13 ปี
ต่อมา ได้ประชุมวางแผนในการดำเนินการสืบสวนจับกุมแล้ว เวลาประมาณ 07.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมลงพื้นที่ พบ ผู้ต้องหากำลังเดินอยู่ริมถนนบริเวณปากซอยเรวดี 31ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จว.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุม นายเดชณรงค์ฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตัวในคดีนี้มาก่อน จากนั้นจึงได้นำตัวมาบันทึกที่ กก.3 บก.ป. ก่อนนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบสวนเบื้องต้น นายเดชณรงค์ฯ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยให้การว่าตนเองมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้างที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุได้ไปทำงานเป็นช่างก่อสร้างที่ต่างประเทศหลายปี กระทั่งกลับมาอยู่ที่บ้านในวันเกิดเหตุช่วงหัวค่ำตนเองดื่มสุราจนเมาและมีเรื่องทะเลาะกับพ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ที่บ้านของผู้เสียหายที่พักอาศัยกัน 2 คน เนื่องจากแม่ของน้องน้ำ (นามสมมุติ) เสียชีวิตไปนานแล้ว โดยพ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ)มีศักดิ์เป็นน้าชาย (น้องแม่) ของนายเดชณรงค์ฯ ขณะที่มีเรื่องทะเลาะกันได้มีการลงมือลงไม้ชกต่อยกัน พ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) สู้ไม่ไหว จากนั้น นายเดชณรงค์ฯ ก็ไล่พ่อน้องน้ำ (นามสมมุติ) ให้ออกจากบ้านไปจากนั้นนายเดชณรงค์ฯ ก็กลับบ้านของตนเองซึ่งอยู่ติดกันต่อมาช่วงดึก ๆพ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) ก็กลับเข้ามาที่บ้านของตนเองแล้วตะโกนโวยวาย นายเดชณรงค์ฯ ได้ยินเสียงก็เกิดโมโหก็คว้ามีดวิ่งไปที่บ้านของน้องน้ำ (นามสมมุติ) เกิดการชกต่อยกันที่บ้านแล้วจะเอามีดไล่แทง พ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) ก็วิ่งหนีออกไปจากบ้าน ขณะนั้นน้องน้ำ (นามสมมุติ) ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่กล้าเข้าไปห้ามได้แต่ตะโกนห้ามอย่าทำพ่อหนู ๆ พอเห็นพ่อวิ่งหนีไปก็ร้องให้และด่าทอนายเดชณรงค์ฯ ซึ่งเป็นน้าชาย นายเดชณรงค์ฯ เกิดโมโหได้ใช้ไม้ทุบข้างฝาบ้านของน้องน้ำ (นามสมมุติ) แล้วก็ออกไปสอบถามฝ่ายผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ และสอบถามไปยังฝั่งของผู้เสียหายให้การว่า วันเกิดเหตุหลังจากที่พ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) ไม่อยู่ ช่วงดึกของคืนดังกล่าว นายเดชณรงค์ฯ ได้เข้ามาทางหน้าต่างโดยทำการถอดบานเกร็ดออกแล้วปีนเข้ามากระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่แล้วหนีออกไป ตอนเช้าพ่อของน้องน้ำ (นามสมมุติ) กลับเข้ามาที่บ้านเห็นบานเกร็ดหน้าต่างห้องลูกสาวถูกถอดออกจึงเรียกน้องน้ำ(นามสมมุติ) มาสอบถาม ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็พาน้องมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายเดชณรงค์ฯซึ่งนายเดชณรงค์ฯ ในช่วงหลังเกิดเหตุก็ยังพักอาศัยอยู่บ้านติดกันโดยมีอาชีพรับเหมาเป็นช่างก่อสร้างบ้าน จนพนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้มาทำสอบปากคำ นายเดชณรงค์ฯ จึงได้หนีมาทำงานเป็นช่างก่อสร้างในพื้นที่ จว.นนทบุรี จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม จับกุมตัว
