วันจันทร์ที่ 1 ก.ค.62 เวลา 09.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พา น.ส.นิภาพร คงมีสุข หรือ น้องอาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 307/4 หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ ร้อยตำรวจเอก พิชานน ปลิ่มสุด รองสารวัตรสอบกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (รองสว.สอบสวน กก.1 บก.ป.) เพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิง น.ส.นิภาพรฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกลายเป็นคนพิการนั่งรถวีลแชร์ เหตุเกิดภายในชุมชนหลังโรงเรียนวัดทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.55 แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ เจ้าของคดียังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ทั้งๆ ที่เวลาผ่านมากว่า 7 ปี
น.ส.นิภาพรฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มทะเลาะวิวาทกันภายในชุมชนหลังโรงเรียนวัดทุ่งครุ แล้วแยกย้ายกันไป หลังจากนั้นตนเองพร้อมกับแฟนหนุ่มและเพื่อแฟนรวม 4 คน ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาหาพี่ที่รู้จักในชุมชน ระหว่างที่นั่งรออยู่นั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขี่จักรยานยนต์มากัน 3 คัน ก่อนวัยรุ่นในกลุ่มดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่กลุ่มตนเอง 1 นัด เป็นเหตุให้แฟนหนุ่ม และเพื่อนแฟน ถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนถูกยิงเข้าที่ศีรษะ แขน และสะโพก ได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาที่โรงพยาบาลเจริญกรุง เป็นเวลาหลายเดือน เมื่อออกมาก็กลายเป็นคนพิการนั่งรถวีลแชร์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต่อมาทราบมาว่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเกิดการยิงผิดตัว เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นแฟนสาวคู่อริที่มีเรื่องกันมาก่อนเพราะแต่งกายคล้ายกัน
“เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หนูต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต กระสุนฝังอยู่ในศีรษะ หมอบอกว่าถ้าผ่าออกจะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรืออาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุหนูและญาติก็ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าคดีกับตำรวจสน.ทุ่งครุ มาตลอด แต่กลับได้รับคำตอบให้รอไปก่อน ดูเหมือนตำรวจไม่ค่อยสนใจทุกข์ร้อนของชาวบ้าน นอกจากนี้กลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่ให้ข้อมูลตำรวจไปเขาก็ไม่เรียกตัวมาสอบสวน ตอนนี้หนูลำบากมากต้องมาเป็นภาระของครอบครัว ซึ่งอยากให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ด้วย” น.ส.นิภาพรฯ กล่าว
ด้านนายรัชพลฯ กล่าวว่า เวลาผ่านไปกว่า 7 ปีแล้ว คดีกลับไม่มีความคืบหน้าทั้งที่ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่ง น.ส. นิภาพรฯ เคยให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการสืบสวนติดตามแต่อย่างใด หากทางตำตรวจทำคดีอย่างจริงจังเชื่อว่าจะจับคนร้ายในคดีนี้ได้เนื่องจากคดีก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากมาย ตนจึงพาเหยื่อมาร้องทุกข์กองปราบปรามเพื่อขอความเป็นธรรมช่วยติดตามคดีนี้ เนื่องจาก 7 ปีที่ผ่านมา น้องต้องกลายเป็นคนพิการ โดยคนร้ายที่ก่อเหตุยังลอยนวล
เบื้องต้น ร.ต.อ.พิชานนฯ ได้รับเรื่องพร้อมทั้งสอบปากคำ น.ส.นิภาพรฯ ไว้ จากนั้นจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง