ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความเฟสบุ๊คภายใต้ชื่อเรื่อง ‘มนุษย์พันธุ์ยืม’ ถึงประเด็นปมนาฬึกาหรู ของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยมีเนื้อหาใจความว่า จริยธรรม ศีลธรรม ความรับรู้เข้าใจและสติปัญญาของสังคมไทยและคนไทยกำลังถูกทดสอบอย่างรุนแรงจากกรณีนาฬิกาสุดหรูราคาแพงที่คุณป้อมใส่และวิธีการอธิบายต่อสังคม
ดร.ปลอดประสพกล่าวว่า หลายสิบปีมาแล้ว พ.อ.ณรงค์ ใช้เฮลิคอปเตอร์และอาวุธหลวงไปยิงกระทิงที่ทุ่งใหญ่นเรศวร สังคมขณะนั้นประณามว่าเอาของหลวงไปใช้ เอาอาวุธสงครามไปทำร้ายฆ่าแกงสัตว์ป่าที่ไม่มีทางสู้ ใช้ความเป็นลูกนายกรัฐมนตรีหาความสนุกแบบไม่มีขีดจำกัด บาปกรรมที่สุดยุคของจอมพลถนอมก็พังลง เหตุการณ์นาฬิกาจึงนำไปสู่คำถามในเชิงตรรกะ ดังนี้
1.หากคุณร่ำรวยเหลือคณานับ การมีนาฬิกาที่โคตรแพงและหายากยิ่ง (ต้องสั่งทำ) ราคารวมมากถึง 30 ล้านบาท เป็นการดำรงชีพที่เหมาะสมหรือไม่ และอยู่ในหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไร
2.หากคุณไปยืมมา (หากจริง) การที่คนธรรมดาไม่ร่ำไม่รวยอะไร แต่อยากแสดงความมั่งมี จึงไปยืมของจากคนอื่น (จำนวนมากๆ) มาใช้มาแสดงต่อสาธารณะชน พฤติกรรมหลอกหลวงผู้อื่นเช่นนี้ถูกต้องหรือ และการแสดงความร่ำรวยจากเครื่องประดับราคาแพงยิ่งเช่นนี้ สังคมไทยจะยกย่องหรือไม่
3.หากคุณเป็นคนไม่มีอะไร แทนที่จะทำมาหากินด้วยลำแข้งตนเองโดยสุจริตและวิริยะอุตสาหะ กลับตั้งหน้าตั้งตายืมของผู้อื่นเค้าใช้เช่นนั้นหรือ และคุณตั้งใจยืมโดยไม่คำนึงว่าเจ้าของเค้าจะหวง (นิสัยปกติของมนุษย์) เลยหรือ คุณคิดว่าเค้าเป็นพระเวสสันดรหรืออย่างไร
4.พล.อ.ประวิตร จะต้องเข้าใจฐานะตัวท่านเองว่า ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ท่านต้องเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมและกองทัพ ต้องถามตัวเองว่า พฤติกรรมแบบนี้ของท่านเป็นแบบอย่างที่ดีงามหรือไม่ เท่าๆ กับท่านไม่มีสิทธิจะโกรธผู้ใดที่เขาวิพากษ์วิจารณ์เลย เพราะท่านเป็นบุคคลสาธารณะ
5.สำหรับผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบแทนสังคม ก็คงมีคำถามถึงมาตรฐานการตรวจสอบว่าจะเชื่อถือได้ไหม การปฏิเสธคำถามเพียงตอบว่า ขอทำงานก่อนนั้นเป็นปกติวิสัยของพวกท่านหรือ ที่ผ่านๆ มาเห็นออกมาให้ข่าว (ร้าย)สรุปก่อนข้อเท็จจริงเสมอ
6.สำหรับผู้นำรัฐบาลก็ต้องถามว่า ไม่ทราบเลยหรือว่า สังคมเจ็บปวดและเสียดแทงแค่ไหน คำว่า”ลดราวาศอก” แปลว่าอะไร และที่พูด (บ่อยเหลือเกิน) ว่าคนดีสังคมดีน่ะ เป็นแค่วาทะกรรมให้ตัวเองถูกมองดูดีเท่านั้นหรือ
ดร.ปลอดประสพกล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่ผมสามารถสรุปได้ทางการเมืองก็คือ ขณะนี้ประเทศไทยได้ถูกเผด็จการปฏิวัติมายืมสิทธิ เสรีภาพและความสุขของประชาชนเจ้าของประเทศไปเกือบหมดแล้ว วันเวลาจะพิสูจน์ว่า “กลุ่มมนุษย์พันธุ์ยืม” นี้ไม่สามารถยืนอยู่ได้อย่างถาวรเป็นแน่”