นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊คถึงกรณีที่อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นำข้อความวิจารณ์การใช้กระเป๋าถือของภริยานายกรัฐมนตรีในครั้งล่าสุดที่เดินทางไปเยือนสหรัฐมาแชร์ โดยครั้งนี้อดีตรัฐมนตรีฯ เขียนข้อความภายใต้ชื่อเรื่อง ‘เตรียมกวาดบ้าน’ โดยมีเนื้อหาใจความว่าตลอดระยะเวลาที่ รัฐบาล คสช. อยู่ในอำนาจ นอกจากการทำลายประชาธิปไตยแล้ว สิ่งที่ คสช. ได้ทำให้ประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวงคือการทำลาย “หลักนิติธรรม” รวมถึงการใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม โดยทุกครั้งของการยึดอำนาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เสนอตัวรับใช้เผด็จการเพื่อแลกกับความก้าวหน้าในอาชีพเสมอ ที่เลวคือจำพวกที่เอาสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมาเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่อำนาจ
นายวัฒนากล่าวต่อว่า ตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นคือการใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์ดำเนินคดีกับอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ที่นำข้อความการวิพากษ์วิจารณ์การใช้กระเป๋าถือของภริยานายกรัฐมนตรีในคราวเดินทางไปเยือนสหรัฐมาแชร์ต่อ ทั้งที่ภริยานายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนสหรัฐกับสามีโดยเบิกค่าเดินทางจากงบประมาณแผ่นดิน อันถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคู่สมรสของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศและเป็นผู้จ่ายภาษีจึงย่อมมีสิทธิจะวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการแต่งกาย การวางตัวรวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ การวิจารณ์ดังกล่าวไม่ถือเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่เป็นความผิดฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพราะไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
นายวัฒนากล่าวทิ้งท้ายว่า “หากภริยานายกรัฐมนตรีเห็นว่าการวิจารณ์ดังกล่าวทำให้ตนได้รับความเสียหาย ก็ชอบที่จะดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทแล้วแต่กรณี แต่จะใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือไม่ได้ ผมขอเตือนมายังเจ้าหน้าที่รัฐที่กำลังรับใช้เผด็จการอย่างไม่ลืมหูลืมตา วันที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเมื่อไรประชาชนจะไม่ปล่อยท่าน เพราะนอกจากเผด็จการแล้ว บรรดาลิ่วล้อที่รับใช้เผด็จการโดยเหยียบหัวประชาชนขึ้นสู่อำนาจก็มีความเลวไม่แพ้กัน กำลังจะถูกนาฬิกาทับตายยกแก๊งค์แล้ว อีกไม่นานเกินรอได้เจอกันครับ”