กมธ.ที่ดิน กังวล “แลนด์บริดจ์” ทำประชาพิจารณ์ไม่โปร่งใส อาจกระทบโครงการ “มรดกโลก”

597

กรุงเทพฯ, วันที่ 10 ส.ค. – พูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการที่ดิน กล่าวถึง การประชุม กมธ.ที่ดินเพื่อหารือเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ เมื่อวันพุธที่ 6 ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีข้อห่วงใยและข้อสังเกตหลายประเด็น ได้แก่ ผลกระทบต่อมรดกโลก เนื่องจากทำเลที่ตั้งท่าเรือ บริเวณแหลมอ่าวอ่าง ระนอง มีความคาบเกี่ยวกับพื้นที่ที่ประเทศไทยกำลังผลักดันให้เป็นมรดกโลกของ UNESCO ในทะเลอันดามัน ไม่ว่าจะเป็นอุทยานฯ หมู่เกาะระนอง, แหลมสน (ระนอง), สิรินาถ (ภูเก็ต), เกาะพยาม และปากน้ำกระบุรี ที่อยู่ในสนธิสัญญา Ramsar Site รวมถึงป่าชายเลนที่สำคัญอีก

พูนศักดิ์ กล่าวว่า ได้ลงไปในพื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง เมื่อ พ.ย. 67 พบว่าป่าชายเลนมีความสมบูรณ์มาก หากสร้างแลนด์บริดจ์บริเวณดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความหลากหลายทางชีวภาพที่หายไปจากการมีโครงการ คงไม่สามารถทดแทนกันได้

“ที่น่ากังวลคือ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเป็นคนพิจารณา รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม – EIA  ของโครงการนี้ เป็นอนุกรรมการดูเรื่องมรดกโลกด้วย ตัวแทน สผ. เองยังยอมรับเลยว่า โดยส่วนตัวแล้วโครงการนี้อาจไม่เหมาะสม สผ.ควรจะมีอำนาจเด็ดขาดโดยไม่ยึดโยงกับอำนาจรัฐในการพิจารณาให้ความเห็น โดยเฉพาะโครงการแบบนี้ สผ.ควรจะประกาศเลยว่าพื้นที่ไม่เหมาะสมซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องเสียงบประมาณและเวลาในการศึกษา และที่สำคัญเพื่อไม่ให้เกิดการขัดแย้งในพื้นที่” ประธาน กมธ.ที่ดินกล่าว

พูนศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือถึงการทำประชาพิจารณ์ที่ไม่โปร่งใส มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่ไม่ครอบคลุมพอ ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในหลายภาคส่วน ขณะที่เอกสารรายงาน EIA ก็มีข้อผิดพลาดหลายจุด กมธ.จึงเสนอให้เชิญผู้เชี่ยวชาญมรดกโลกมาร่วมพิจารณา EIA ฉบับสมบูรณ์ด้วย เพื่อความรอบคอบและโปร่งใส เพราะคุณค่าของมรดกโลกประเมินเป็นเงินและสร้างใหม่ไม่ได้ และมรดกโลกเองอาจสร้างตัวเลขทางเศรษฐกิจในเชิงความยั่งยืนได้มากกว่าโครงการแลนด์บริดจ์ด้วยซ้ำ

“เราตั้งคำถามตรงๆ ว่า สผ. ตรวจสอบข้อมูล EIA เองจริงจังแค่ไหน? ได้ลงพื้นที่จริง ดำน้ำสำรวจปะการังเองบ้างไหม หรือแค่ดูตามรายงานที่บริษัทรับจ้างทำ EIA นำเสนอ? สรุปคือ โครงการใหญ่และกระทบกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้ จำเป็นจะต้องทำด้วยความ รอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมกับคุณภาพชีวิตของประชาชน มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เราจะติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด และเตรียมเรียกหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาประชุมที่ กมธ. ราวๆ 20 ส.ค. เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดต่อไปครับ” ประธาน กมธ.ที่ดิน ย้ำ