“ศุภชัย” ย้อน “บุญเชิด” คำสั่งศาลฎีกาคดีเขากระโดง มีผลเฉพาะคู่ความ 35 ราย เท่านั้น ไม่รวมอีก 995 ราย

364

กรุงเทพฯ, วันที่ 10 ส.ค. – นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงผ่านเพจส่วนตัวกรณีนายบุญเชิด คิดเห็น อดีตอธิบดีกรมที่ดิน พูดถึงกรณีที่ดินเขากระโดงว่า เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว ก็ต้องจบ เขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟฯ เป็นที่ดินรัฐ ต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้งหมด ว่า ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรคแปด บัญญัติว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขการจดทะเบียนสิทธิหรือนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการตามคำพิพากษานั้น โดยใช้วิธีการที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด และตามมาตรา 62 ศาลจะต้องแจ้งผลคำพิพากษาถึงที่สุดให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบด้วย

“ท่านเคยเป็นอธิบดีกรมที่ดิน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมา ท่านน่าจะรอบรู้ในหน้าที่ที่ท่านต้องทำ แต่พอถึงตอนนี้มองย้อนหลังไปก็ได้แต่บ่นพึมพำ ท่านมาได้ไกลเหลือเกินๆ จนถึงเวลานี้ผมก็คิดว่าท่านไม่เข้าใจเลยว่าคำพิพากษาศาลฎีกามีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น กล่าวง่ายๆ คือผูกพันเฉพาะโจทก์ 35 ราย ไม่มีผลผูกพันกับเจ้าของที่ดินผู้มีเอกสารสิทธิ์ 995 ราย แล้วไหนล่ะคำพิพากษาศาลฎีกาที่ออกมาให้เพิกถอนโฉนดของ 995 ราย” นายศุภชัย ระบุ

พร้อมตั้งคำถามว่า หากนายบุญเชิดนั่งเป็นอธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น จะกล้าสั่งให้เพิกถอนโดยไม่ต้องขอดูคำพิพากษาถึงที่สุดของ 995 รายเช่นนั้นหรือ ท่านจะไม่ขอดูการออกโฉนดที่ดินของกรมที่ดิน ว่าออกเอกสารสิทธิผิดโดยคลาดเคลื่อนหรือผิดกฎหมายหรือไม่ และถ้าคลาดเคลื่อนหรือผิดกฎหมายนั่นก็ย่อมหมายถึงว่าท่านยอมรับว่ากรมที่ดินซึ่งท่านรับผิดชอบเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นสูงสุดอยู่ทำผิดกฎหมาย

ตนคิดว่านายบุญเชิดสั่งในเวลานั้นอย่างที่ออกมาพูดในเวลานี้จริงๆ ท่านคงถูกดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 เช่นเดียวกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ซึ่งต้องโทษจำคุกเพราะเรื่องเพิกถอน ไม่เพิกถอน “อ้อ! ท่านดูดีๆ มาตรา 61 วรรค 8 บัญญัติให้อำนาจ เจ้าพนักงานที่ดิน ไม่ใช่ อธิบดีกรมที่ดินนะท่าน! ท่านอย่าคิดว่าเป็นอธิบดีแล้วจะสั่งเจ้าพนักงานงานที่ดินได้ ไม่มีใครจะเสี่ยงติดคุกติดตารางกับท่านหรอก” นายศุภชัย กล่าว