รายงานพิเศษ : ถึงเวลาหรือยังที่ต้องคุมอีคอมเมิร์ซป้องกันผูกขาดบริษัทขนส่ง

1587
CREATOR: gd-jpeg v1.0 (using IJG JPEG v90), quality = 90


ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัย เนื่องจากความสะดวกสบาย อยู่ที่ไหนก็สามารถเลือกซื้อขายสินค้าที่ต้องการได้ แม้จะมีปัญหาบ้างเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะสินค้าไม่ตรงปก

CREATOR: gd-jpeg v1.0 (using IJG JPEG v62), quality = 80


แต่ปัญหาดังกล่าวก็ค่อนข้างลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากสำนึกของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่บอกกันปากต่อปาก แช็ตต่อแช็ต เช่น สินค้าเจ้านี้ไม่ตรงปก สินค้าเจ้านี้ด้อยคุณภาพ ก็หันไปซื้อจากเจ้าอื่นที่มีคุณภาพและบริการดีกว่า สุดท้ายผู้ขายรวมถึงแพล็ตฟอร์มนั้นๆ ก็ต้องปรับตัวเข้าหาผู้บริโภค เพื่อความอยู่รอด


ปัญหาอีกประการที่ควบคู่มากับสินค้าไม่ตรงปก นั่นก็คือ การขนส่ง ในที่นี้รวมไปถึงคุณภาพการบริการของบริษัทขนส่ง ที่ปัจจุบันหลายแพล็ตฟอร์มเปิดกว้างให้กับบริษัทขนส่งต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย ณ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น บริการจากภาครัฐอย่างไปรษณีย์ไทย รวมถึงภาคเอกชน อาทิ แฟลช เอ็กซ์เพรส, KEX หรือเจ้าอื่นๆ
แต่รู้หรือไม่? ยังมีแพล็กฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok ที่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้บริการขนส่งจากบริษัทที่กำหนดเท่านั้น นี่อาจเป็นสงครามครั้งใหม่ของการกีดกันทางการค้า การผูกขาด ที่อาจส่งผลให้ตลาดการขนส่งพังในอนาคต เนื่องจาก TikTok เป็นอีกแพล็ตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ขนาดใหญ่ ทำให้เจ้าอื่นมิอาจแข่งขันด้วยได้ โดยเฉพาะในตลาดจีน


ปัจจุบันยอดซื้อขายบน TikTok ของร้านค้าต่างๆ กว่า 90% ถูกบังคับให้เลือกใช้บริษัทขนส่งเพียงรายเดียวเท่านั้น นั่นไม่ใช่เพราะบริการดี ขนส่งรวมเร็ว หรือไม่ทำของเสียหายแต่อย่างใด เห็นได้ชัดเจนกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่พ่อค้า-แม่ค้าต่างโพสต์เชิงตำหนิลงตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ เช่น ขนส่งช้ามาก ,ตีกลับพัสดุทั้งที่ลูกค้ายังไม่ได้แจ้ง ,พัสดุสูญหายเสียหายเป็นจำนวนมากกว่าปกติ ฯลฯ จนส่งผลทำให้ อยากเปลี่ยนขนส่ง


สำหรับเหตุผลที่ TikTok ยังคงเหนียวแน่นกับบริษัทขนส่งเจ้านี้เจ้าเดียว ก็ไม่ใช่อื่นใด นั่นเป็นเพราะ การที่บริษัทดังกล่าวให้ราคาที่ถูกที่สุดในตลาด และในเมื่อราคถูกที่สุด ก็คงไม่ต้องพูดถึงการใส่ใจในคุณภาพและบริการ พูดง่ายๆ ขอทำหน้าที่ให้เสร็จๆ จะช้าเร็ว จะกล่องยับยู่ยี่ จะเสียหายอย่างไรไม่ใช่หน้าที่ ตรงนี้ก็ไม่ทราบบริษัทเขาคิดแบบนี้หรือไม่ แต่โดยสามัญสำนึก มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น


การผูกขาดทั้งบริษัทขนส่ง และค่า GP ในทุกวันนี้ พ่อค้า-แม่ค้า ต้องจำใจยอมรับ ที่สำคัญ พ่อค้า-แม่ค้า แน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีต้นทุนแอบแฝงในการขายบน TikTok เนื่องจากราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ TikTok บวกเพิ่มค่าขนส่งแอบแฝงมาแล้ว สุดท้ายผู้บริโภคก็ต้องเสียรู้ให้กับ TikTok ในการเลือกซื้อสินค้าในราคาแพงกว่าราคาที่เป็นจริง เพราะพ่อค้าแม่ค้าไม่มีทางเลือกในการที่ต้องตั้งราคาสินค้าสูงกว่าปกติ และไม่สามารถเลือกบริษัทขนส่งได้เองทั้งที่เป็นผู้เสียเงินซื้อก็ตาม


สอดคล้องกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.หรือ ETDA) ที่มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการธุรกิจหลีกเลี่ยงการกระทำ อันเป็นการจำกัดทางเลือกของผู้ใช้บริการ ในการเลือกให้ผู้บริการขนส่งบนบริการแพล็ตฟอร์มดิจิทัล โดยระบุคร่าวๆ ว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการกีดกันไม่ให้ผู้ให้บริการขนส่งรายอื่นสามารถให้บริการบนแพล็ตฟอร์มของตัวเองได้ หรือกำหนดพื้นที่ให้บริการสำหรับผู้ให้บริการขนส่งรายอื่นอย่างไม่เป็นธรรม ฉะนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อสาธารณชน จึงขอความร่วมมือให้แต่ละแพล็ตฟอร์มหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าว เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการแพล็ตฟอร์ม และส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมในการให้บริการ

CREATOR: gd-jpeg v1.0 (using IJG JPEG v90), quality = 90


บัดนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พ่อค้า-แม่ค้า จะมีสิทธิเลือกบริษัทขนส่งเองได้บน TikTok เหมือนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ และสบโอกาสหรือยังที่รัฐบาลจะเร่งออกกฏหมายหรือตั้งหน่วยงานมาควบคุมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (โดยเฉพาะ TikTok) คงไม่ช้าไปที่รัฐจะเข้ามาควบคุม เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภคนั่นเอง