หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน เดือดร้อนบ่อขยะกลางชุมชน ลักลอบเผา ส่งกลิ่นเน่าเหม็นทั้งขยะ และควันไฟ

ชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน เดือดร้อนบ่อขยะกลางชุมชน ลักลอบเผา ส่งกลิ่นเน่าเหม็นทั้งขยะ และควันไฟ

ชจากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “เหม็นมาก เจ้าของที่เป็นชื่อใครคะ รบกวนช่วยมาจัดการด้วย ปัญหานี้มันรบกวนชาวบ้านมาก กลิ่นเหม็นส่งผลให้ปวดหัวไปหมดแล้ว คนแก่ เด็กเล็กไม่มีความอากาศบริสุทธิ์เลย มีแต่อากาศเป็นพิษ เจ้าของที่ดินชื่อผืนนี้ของใครคะ รบกวนช่วยจัดการด่วนด้วยค่ะ สำนักงานเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง หน่วยงานเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้วยนะคะ เป็นปัญหามากๆเลยค่ะ ถ้าใครเข้ามาจัดการมีเลือกตั้งเดี๋ยวจะเลือกให้เลยนะคะ”

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคประชาชน เขต 7 จ.นนทบุรี พร้อมด้วยน.ส.สมร อาดำ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 และตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่ดิน ภายในชุมชนมัสยิดยามารุดีน ซอยวาก๊าฟ หมู่ 12 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากการสังเกตพบว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินส่วนบุคคล ที่เจ้าของที่ดินอนุญาตให้คนงานก่อสร้างนำเศษหิน ดิน ทราย มาทิ้งเพื่อถมที่ แต่ก็มีบางส่วนที่นำขยะมาทิ้ง ทำให้ส่งกลิ่นเน่าเหม็น นอกจากนี้จากการสอบถามชาวบ้านพบว่ามีคนเก็บขยะแอบเข้ามาเผาขยะเพื่อนำเศษทองแดงไปขาย ทำให้เกิดไฟลุกไหม้หลายครั้ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ทั้งกลิ่นเน่าเหม็นและควันจากเพลิงไหม้ ให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ได้มีชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน ได้รวมตัวกันมาลงชื่อทำหนังสือร้องเรียนให้หน่วยงานเร่งแก้ไขอย่างเด็ดขาด

น.ส.ดุษณี พลฉิมพันธุ์ อายุ 40 ปี (ฮิญาบสีน้ำตาลอ่อน) เจ้าของโพสต์ กล่าวว่า ตนอยู่ในชุมชนนี้มาตั้งแต่เกิด ซึ่งประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนจากควันไฟปลิวไปที่บ้าน ซึ่งบ้านของตนมีเด็กเล็ก และญาติพี่น้องอาศัยอยู่รวมกัน แต่ละคนมีอาการป่วย และไอ รักษาไม่หาย รวมถึงไม่สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างบ้านได้ มีทั้งกลิ่นเหม็นและฝุ่นควัน ขับรถผ่านทุกวันจะเจอควันขึ้นตลอด กลัวว่าจะไฟไหม้ลุกลาม เพราะที่ผ่านมาเคยมีไฟไหม้ตรงจุดนี้หลายครั้งและตนก็โทรแจ้งให้รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองเข้ามาดับไฟหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีคนแจ้งเข้ามาเยอะแต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ วันนี้พวกตนเลยรวมตัวกันมาลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขและใช้มาตรการเด็ดขาดกับเจ้าของที่

น.ส.มลทิชา ดอเลาะ อายุ 20 ปี (ฮิญาบสีน้ำตาลเข้ม) กล่าวว่า ครอบครัวของตนได้รับผลกระทบจากกลิ่นขยะเน่าเหม็นและควันไฟ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ ตนเคยเห็นทั้งคนที่เข้ามาทิ้งขยะ และเข้ามาเก็บขยะ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีคนเข้ามาทิ้งขยะขยับออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งพวกตนอดทนแบบนี้มามากกว่า 2 เดือนแล้ว หลานของตนก็เป็นหอบหืด หลายครั้งที่ตรงนี้เกิดไฟไหม้และต้องประสานผู้ใหญ่บ้านให้เรียกรถดับเพลิงเข้ามาดับไฟหลายครั้ง ตนกังวลว่าไฟจะลุกลามไปจนถึงบ้านของตัวเอง

2 สามีภรรยา ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า พวกตนได้รับผลกระทบมามากกว่า 2 เดือนกว่าแล้ว ลูกหลานเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก ไม่สามารถไปเรียนได้เนื่องจากมีอาการไอ เพราะผลกระทบจากฝุ่นควัน และกลิ่นขยะเน่าเหม็น มีทั้งคนที่นำเข้ามาทิ้งและเข้ามาเผาขยะเพื่อหาเศษทองแดงไปขาย ที่ดินตรงนี้มีไฟไหม้ตลอดเวลา ทราบว่าเจ้าของที่ให้คนเข้ามาทิ้งขยะ โดยเก็บเงินคันละ 50 บาท ซึ่งมีคนเข้ามาทิ้งขยะทุกวัน บางครั้งลูกของตนกลับจากทำงานกลางคืนแล้วขับรถผ่านก็ต้องคอยลงมาช่วยดับควันเพราะกลัวจะเกิดเพลิงไหม้ เมื่อคืนตนก็ออกจากบ้านมา 6 คน และช่วยกันดับไฟ เพราะไหม้ทุกวัน กลางคืนก็นอนไม่ได้ บ้านตนไม่มีแอร์ก็เลยต้องเปิดหน้าต่างนอน แต่ตอนนี้ต้องอดทนเพราะเปิดหน้าต่างไม่ได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวรีบเข้ามาแก้ไขดูแล

บังดาวุด เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่บ้านมาตลอด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ยินดีจะล้อมรั้วให้แต่ริมถนนดินแข็ง อาจจะยากต่อการเจาะขุดลงเสา ซึ่งก็เคยติดต่อหน่วยงานที่รับอาสาจะช่วยทำให้ ส่วนการเผาขยะ หรือมีควันขึ้น ตนไม่ได้เป็นคนทำ และไม่ทราบว่าใครเป็นคนเผาขยะในที่ดินของตน ตนไม่สามารถรับผิดชอบได้คนเดียว พยายามแก้ไขแต่ก็สุดความสามารถ ตนให้คนนำแค่อิฐ หิน ปูน ทราย เข้ามาทิ้งในพื้นที่เนื่องจากต้องการถมที่ และไม่ได้ทิ้งเลยออกนอกพื้นที่ไปจะมีพวกเก็บขยะเข้ามาเคลียร์เลยอาจทำให้ล้นออกไปบ้าง หลังจากตนได้รับหนังสือก็จะให้ความร่วมมือทำป้ายมาติดไม่ให้คนนำขยะมาทิ้งก่อน และจะปรึกษากับครอบครัวเพื่อล้อมรั้วอีกครั้งเนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมาก

น.ส.สมร อาดำ อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้ประสานทางเทศบาลเร่งแก้ไขเพราะที่ดินผืนดังกล่าวทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก มีทั้งเด็กเล็ก คนสูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เกิดไฟไหม้บริเวณนี้หลายครั้ง โดยที่ผ่านมาได้พูดคุยกับเจ้าของที่ดินมามากกว่า 10 ครั้ง ล่าสุดได้มีการทำหนังสือส่งมาให้กับเจ้าของที่ดินเกี่ยวกับคำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไข วันนี้จึงลงพื้นที่มาอีกครั้งเพื่อใช้มาตรการเด็ดขาดกับเจ้าของที่ดินในการแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากแบบนี้ ทั้งการทำรั้ว และติดป้ายห้ามทิ้งขยะ ซึ่งจะติดตามผลอีกครั้งในวันจันทร์หน้า

นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง กล่าวว่า ทนายโป้ง กล่าวว่าวันนี้ได้รับการประสานจากชาวบ้านที่อยู่ภายในซอยมัสยิดยามารุดีน หมู่ 12 บริเวณบ่อขยะมีไฟลุกไหม้ทำให้มีกลิ่นเหม็น ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะมีไฟลุกไหม้ เหม็นกลิ่นพลาสติกและกลิ่นโล หะ วันนี้ได้พบกับพี่น้องที่พักอาศัยอยู่ในซอยมัสยิดกว่า 10 ครอบครัว มาให้ข้อมูลตรงกันว่าบ่อขยะมีกลิ่นเหม็น มีคนที่เห็นแก่ตัวนำขยะมาทิ้ง นำโลหะทองแดง สายไฟ มาเผาแล้วทิ้งไว้ ทำให้เกิดมลพิษ จากการสอบถามเจ้าของที่แปลงนี้ไม่ได้อนุญาตให้มาทิ้ง จะยอมให้ทิ้งได้แค่อิฐ หิน ปูน ทราย เพื่อจะถมที่ดิน ทางเจ้าของที่ได้แสดงหลักฐานว่ามีคำสั่งของเทศบาลรอการดำเนินการ วันจันทร์นี้จะนำป้ายมาติดเพื่อสงวนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ห้ามคนอื่นเข้ามาทิ้งขยะ ห้ามเผาขยะ ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทางตนจะประสานทางเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง วันนี้ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 มาลงพื้นที่และได้ประสานกับนายอำเภอบางบัวทองเรียบร้อย หากมีคนกระทำผิดคดีอาญาตนจะไปแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง และประสานให้ส่งสายตรวจคอยซุ่มดูเพื่อดำเนินคดีกับคนที่ลักลอบนำขยะมาทิ้ง ส่วนความผิดเป็นความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.สาธารณสุข เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่น คือเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง ตามกฎหมายของพระราชบัญญัติการสาธารณสุขเป็นเรื่องของเหตุเดือดร้อนรำคาญ มลพิษเรื่องของกลิ่นและเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยทางเทศบาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าของที่หยุดและทำการป้องกันภายใน 30 วัน ให้รีบดำเนินการ ถ้าไม่ดำเนินการ อันนี้ถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงานมีโทษทางอาญา ทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img