ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อสามารถติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงไปกลับมาเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.4 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนหาข่าวในเพจเตือนภัย พบว่ามีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเพจเฟซบุ๊กโฆษณาขายมูลี่ไม้ไผ่ออนไลน์ ได้มีการแจ้งเตือนว่าเป็นเพจปลอมโอนเงินแล้วไม่ส่งสินค้ามีผู้เสียหายจำนวนมากทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลายราย จึงดำเนินการสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับจากศาล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นายธนกรวิทย์ อายุ 32 ปี ชาวอ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงทำการตรวจสอบข้อมูล และพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับอยู่แล้วหลายสิบหมาย จึงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลแขวงเชียงใหม่ อนุมัติหมายจับ ที่ จ.281/2567 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2567 จนสามารถจับกุมตัวนายธนกรวิทย์ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาในความผิดฐาน “ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
จากการสอบปากคำของนายธนกรวิทย์ฯ รับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง นายธนกรวิทย์ฯ ได้เล่าว่าตนเองได้ค้าขายมูลี่จริงและได้ทำการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กและได้ยิงแอดโฆษณาทำให้มีลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก ออเดอร์ที่สั่งไปที่โรงงานจึงทำไม่ทันเป็นเหตุให้ไม่มีสินค้าส่งให้ผู้สั่งซื้อประกอบกับตัวเองปัญหาทางการเงินจึงนำเงินไปใช้จนหมดทำให้ไม่สามารถสั่งสินค้าให้กับลูกค้าได้จึงก่อให้เป็นคดีความหลายสิบราย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป