“ผบ.ตร.”ยันจำเป็นต้องโอนคดี ทนายตั้ม ฉ้อโกงมาให้ บช.ก.ชี้ คดีมีความซับซ้อนและความเสียหายสูง เตรียมเชิญ ทนายตั้ม ให้ปากคำก่อนพิจารณาออกหมายจับ-หมายเรียกตามขั้นตอน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีมีคำสั่งให้โอนคดีที่มีผู้เสียหายแจ้งความเอาผิด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านมา จาก สภ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มาให้กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความสลับซับซ้อนและมีความมูลค่าความเสียหายสูง ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จึงเสนอเรื่องมาและเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอที่ บช.ก.จะเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนจึงอนุมัติให้ทาง บช.ก.ดำเนินการต่อ
ผบ.ตร.กล่าวว่า ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำในส่วนของผู้เสียหายแล้วส่วนจะเป็นการเชิญมาหรือพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเองขอตรวจสอบก่อน ส่วนจะมีการเชิญ ทนายตั้ม ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำหรือไม่นั้น ก็เป็นกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว หากมีพบว่าความผิดชัดเจนเข้าองค์ประกอบความผิดหรือความผิดเป็นไปตามฐานใดและสามารถเรียกมาให้ปากคำก่อนก็ได้เหมือนคดีดิไอคอนกรุ๊ป หรือสุดท้ายอาจจะมีการพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับขึ้นอยู่พยานหลักฐาน ย้ำว่าเรื่องนี้เมื่อมีการกล่างหาก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ไม่มีอะไรที่ต้องน่าวิตกกังวลอะไร
ส่วนกรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงต้องมีมาตรการหรือกำชับอะไรพนักงานสอบสวนเป็นพิเศษหรือไม่ รวมถึงป้องกันการหลบหนี ระบุว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอบคอบรัดกุม อีกทั้งเรื่องการป้องกันหากมีพฤติการณ์หลบหนีก็เป็นหน้าที่ของ บช.ก.ว่าจะมีการตัดชุดป้องกันหรือไม่แต่ที่ผ่านมามีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว