CIB กวาดล้างบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

323

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กวาดล้างบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พบเหยื่อหลายราย สูญเงินรวมเกือบ 10 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ,พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม น.ส.ปรียานุช ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 4930/2567 ลงวันที่ 8 ต.ค.2567
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกัน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านใน ม.2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชน โดยได้รับแจ้งจากสายลับพบว่า น.ส.ปรียานุช ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 4930/2567 ลงวันที่ 8 ต.ค.2567 ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. จึงได้เข้าจับกุม น.ส.ปรียานุชฯ

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ผู้ต้องหามีชื่อเป็น 1 ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ จะทำการสุ่มโทรศัพท์หาเหยื่อโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหาดใหญ่ ใช้กลอุบายสร้างสถานะการข่มขู่ให้ผู้เสียหายกลัว หลอกลวงผู้เสียหายว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องต่างๆ จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สินที่มีและให้ผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนเงินมาให้ในบัญชีที่กลุ่มคนร้ายเตรียมไว้ โดยอ้างว่าเพื่อทำการตรวจสอบ และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินมาให้ก็จะทำการโอนถ่ายเงินของผู้เสียหายต่อไปยังบัญชีผู้อยู่ในขบวนการ ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินที่โอนไป เบื้องต้นตรวจสอบทราบว่ามีผู้เสียหายในคดีนี้จำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 10 ล้านบาท

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหา อ้างว่าตนไม่เคยรับจ้าง ไปเปิดบัญชีธนาคารให้ใคร แต่ตนเคยสมัครแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน และเชื่อว่าถูกแอปฯเถื่อนดังกล่าวนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. โทร. 08 5828 9599

เตือนภัย ปัจจุบันอาชญกรรมในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีจำนวนมาก ผู้คนทั่วไปที่รู้ไม่เท่าทัน ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่ต้องสูญเสียเงินไปกับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ดังนั้น ก่อนที่จะมีการโอนเงินไปยังบุคคลที่เราไม่รู้จักหรือโอนเงินเพื่อทำธุรกรรมใดๆ เราควรจะทำการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เช่น หากมีมิจฉาชีพทำการ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาข่มขู่ แจ้งข้อกล่าวหาต่างๆ หรือมีการแจ้งให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบต่างๆ ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอแจ้งให้ทราบว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จะไม่มีการแจ้งหมายหรือข้อหาผ่านทางโทรศัพท์แต่อย่างใด จะเป็นการส่งหมายเรียกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผ่านทางไปรษณีย์เท่านั้น ไม่มีการแจ้งผ่านทางโทรศัพท์ และขอแจ้งให้ทราบว่า การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น, อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร, หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี, ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง, รหัส OPT ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังท่าน ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#CIB#ข่าวอาชญากรรมวันนี้