นายเอกชัย อิสระทะ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ อดีตแกนนำพันธมิตรภาคใต้ และผู้ร่วมชุมนุม กปปส. โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว กล่าวขอโทษเมื่อครั้งที่เคยเข้าร่วมชุมนุม กปปส. จนอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดการรัฐประหาร โดยระบุว่า “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พรรคสามัญชนถูกตั้งคำถามจากเพื่อนพ้องในสังคม แต่ผมถือว่าเป็นการดีที่เราจะต้องถูกตรวจสอบทั้งในอุดมคติและการปฏิบัติว่าเราได้ทำอะไรๆ สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร และพรรคสามัญชนของเราจะออกแบบ จัดวางกลไกกระบวนการพิจารณา การกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกและผู้มาทำหน้าที่ให้พรรคอันเป็นการพัฒนาระบบพรรคให้สังคมรับรู้ต่อไป
ผมเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวระดับจังหวัดสงขลาจริง ในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา (๑) ที่ตั้งเวทีหลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ในปี ๒๕๔๘ – ๒๕๔๙ หลังจากนั้นกลับไปอยู่บ้านที่อำเภอรัตภูมิ สงขลา จึงไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวอื่น
สำหรับกรณีของกปปส. ผมเป็นมวลชนคนหนึ่งที่ออกมาเดินใช้สิทธิในการชุมนุม ไม่ได้เป็นแกนนำใดๆ ไม่เคยไปชุมนุมหารือ วิเคราะห์หรือวางแผนสถานการณ์ใดๆ กับแกนนำกปปส. ทั้งในภาคใต้และส่วนกลาง แต่อาจจะมีการกระทำหนึ่งที่อาจถูกนับว่าเป็นแกนนำได้ตรงที่ผมและเพื่อนพี่น้องในชุมชนอำเภอรัตภูมิได้จัดตั้งเวทีปราศรัยขึ้นที่สี่แยกคูหา วัตถุประสงค์ก็เพื่อปราศรัยและถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมจากส่วนกลาง ช่วงระหว่างนี้การชุมนุมจากส่วนกลางยังเป็นการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ แต่หลังจากการชุมนุมจากส่วนกลางขยายตัวไปมากกว่าการต่อต้านพ.ร.บ. นิรโทษกรรม เวทีก็ได้ถูกยึดและเคลื่อนย้ายมาที่หน้าอำเภอรัตภูมิ โดยพรรคการเมืองหนึ่ง ผมก็ได้ถอยออกมา เนื่องจากผมไม่เคยเชื่อมั่นหรือไว้ใจใดๆ ต่อพรรคนั้นมาเนิ่นนานแล้วจากหลายกรณีที่พรรคนี้ผลักดันการพัฒนาในภาคใต้ที่ผมและเพื่อนๆ ต่อสู้คัดค้านร่วมกับพี่น้องประชาชน
ผมขอโทษต่อพี่น้องที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งนั้นนำพาไปสู่การรัฐประหาร
ผมไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิของพี่น้องในชุมชนที่ถูกละเมิดจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ภายใต้โครงสร้างการเมืองที่คนชายขอบตกเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด
กรณีพันธมิตรสงขลาได้มีการแถลงผ่านสื่อในการไม่เห็นด้วยกับ คมช. ที่ยึดอำนาจซึ่งเป็นการทำลายพลังประชาชนในช่วงหลังการยึดอำนาจของ คมช. สำหรับล่าสุด หลังการยึดอำนาจปี ๒๕๕๗ ในเดือนกันยายนขาหุ้นปฏิรูปพลังงานได้เดินรณรงค์เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปพลังงานจากหาดใหญ่ไปกรุงเทพ
หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวคัดค้านโครงการที่ต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลประชาธิปัตย์จนถึงรัฐบาล คสช. คือ แลนด์บริดส์สะพานเศรษฐกิจสงขลา-สตูล อันประกอบด้วยโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล ท่าเรือน้ำลึกสวนกง จ.สงขลา รถไฟขนตู้คอนเทนเนอร์ การระเบิดหินเขาคูหา การดูดทรายคลองรัตภูมิ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งเป็นชุดโครงการเดียวกันที่จะทำลายฐานทรัพยากรชุมชนภาคใต้ไปเป็นเมืองอุตสาหกรรม รวมถึงการร่วมลงรายชื่อยกเลิกคำสั่ง คสช. ร่วมกับเพื่อนมิตรจากภูมิภาคต่างๆ และการร่วมเดิน We Walk กับพี่น้องที่เดือดร้อนจากปัญหาทรัพยากรและที่ดินทั่วประเทศฯลฯ
การมาร่วมกับพรรคสามัญชนในครั้งนี้ ก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาวที่ไม่เพียงการสร้างประชาธิปไตยจากฐานราก แต่ต้องปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิของชุมชน และสร้างความเท่าเทียมระหว่างคนในศูนย์กลางอำนาจกับคนชายขอบที่ถูกละเลยมาโดยตลอด และเชื่อว่าพรรคสามัญชนจะเป็นเครื่องมือของเรา เป็นอุดมคติของเรา คนชายขอบของอำนาจที่ไม่เคยได้กำหนดอนาคตของชีวิตตัวเองตลอดเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่จะเปลี่ยนโครงสร้างสังคมการเมืองที่ขูดรีดทรัพยากรและชีวิตของคนเล็กคนน้อยเพื่ออภิสิทธิชน ภายใต้ความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย
กระนั้นก็ดีก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตที่ผม และพรรคสามัญชนจะต้องพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่
สุดท้ายนี้ ขอกล่าวคำขอโทษอีกครั้งหนึ่งสำหรับผู้สูญเสียความศรัทธาและเชื่อมั่นต่อพรรคสามัญชนอันมีต้นสายปลายเหตุจากกระทำในอดีตที่ผ่านมาของผม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา พรรคสามัญชน ได้จัดประชุมจัดตั้งพรรคที่อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการบริหาร โดยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ได้รับการเลือกเป็นว่าที่หัวหน้าพรรค มีรองหัวหน้าพรรค 4 คน ได้แก่ นายชาติชาย ธัมโม นายสรุพันธุ์ รุจิไชยวัฒน์ นางสาวชุมมาพร แต่งเกลี้ยง นายเอกชัย อิสระทะ ส่วนนายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ เป็นเลขาธิการพรรค
ขณะที่เพจ สามัญชน ได้ลงคำให้สัมภาษณ์ของเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคสามัญชน ระบุถึงแนวทางของพรรคว่า นับแต่นี้ต่อไปเราจะเดินหน้าทำคาราวานสามัญชนกับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อต้องการให้พี่น้องในพื้นที่ต่างๆ ได้สะท้อนเสียงถึงความต้องการถึงความปรารถนาของเขาเพื่อจะผลักดันข้อเสนอตรงนั้นให้เป็นนโยบายให้ได้
ประเด็นที่สอง เราจะร่วมกันปลดอาวุธ คสช. ด้วยมือเปล่า เราจะเคลื่อนเพื่อยกเลิกคำสั่ง คสช. หลายฉบับที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อจะทำให้ คสช. กลับไปอยู่ในที่ตั้งที่สมควรอยู่ เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งของประชาชนอีกต่อไป แล้วก็นี่เป็นภารกิจที่เราจะทำกันในช่วงเวลาที่ใกล้นี้” เลิศศักดิ์ กล่าว
ส่วนนายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ ว่าที่เลขาธิการพรรค กล่าวถึงจุดยืน 3 ข้อของพรรค คือ 1.ประชาธิปไตยจากรากฐาน 2.สิทธิมนุษยชน 3.เท่าเทียมเป็นธรรม และต้องการให้คนจน คนชายขอบ หรือ ชนชั้นกลาง ที่ไม่มีอำนาจเข้าไปในสภา เพื่อสะท้อนเสียงของคนจน คนด้อยโอกาส นำไปสู่การผลักดันนโยบายขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้พรรคสามัญชน ได้เน้นย้ำว่าไม่เข้าร่วมรัฐบาลนายกฯ คนนอก เพราะไม่ยึดโยงกับประชาชน”
แถลงการณ์ขอโทษ ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พรรคสามัญชนถูกตั้งคำถามจากเพื่อนพ้องในสังคม…
โพสต์โดย เอกชัย อิสระทะ เมื่อ วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2018