คลัสเตอร์”เหล้าเถื่อน”ดับพุ่ง4ศพ โคม่า14 – ภรรยาเศร้ารับศพสามี

301

กรมการแพทย์ สรุปสถานการณ์ผู้ป่วยจากการดื่มเหล้าเถื่อน เสียชีวิตแล้ว4ศพ โคม่า14ราย อยู่ICUใส่ท่อหายใจ ขณะญาติเศร้ารับศพสามี ฉะผู้ผสมเหล้าเถื่อนขายเห็นแก่เงินไม่ห่วงชีวิตคน

วันที่ 27 ส.ค.67 นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรณีพบผู้ป่วยเป็นพิษเฉียบพลัน จากการดื่มสุราเถื่อนผสมเมทานอลหลายรายในพื้นที่เขตคลองสามวาและเขตมีนบุรี

นพ.ไพโรจน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 33 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 4 ราย เหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ 29 ราย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 16 ราย โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 จํานวน 10 ราย และที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคําแหง โรงพยาบาลนวมินทร์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ แห่งละ 1 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการรุนแรงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูและใส่ท่อช่วยหายใจ 14 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสีแดง 10 ราย เหลือง 10 ราย เขียว 9 ราย และได้รับการฟอกไต 21 ราย

ด้าน พญ.อรดา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองผู้อํานวยการด้านการแพทย์ 2 โรงพยาบาลนพรัตนฯ กล่าวว่า เคสผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย คือกลุ่มที่เข้ารับการรักษาตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุวันที่ 22-24 สิงหาคม ซึ่งมีอาการหนักมาตั้งแต่แรกเมื่อมาถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้มีการปั้มหัวใจและใส่ท่อช่วยหายใจ ส่วนผู้ป่วยที่มาเร็วส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มสีเหลือง เขียว และมี 8 รายที่สามารถกลับบ้านได้แล้ว ซึ่งหากผู้ป่วยรู้ตัวเร็วก็จะช่วยให้สามารถรักษาให้การอาการดีขึ้นได้และไม่รุนแรง สําหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักจากข้อมูลส่งนใหญ่จะเป็นผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจําและมีโรคประจําตัว

นางอรสา ทองบุญรอด กรมสรรพสามิตรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5 กล่าวยํ้าเตือนไปยังผู้จําหน่ายยาดองว่า มีความผิดตามกฎหมายฐานจําหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและเปลี่ยนแปลงนํ้าสุรา ซึ่งมีโทษปรับข้อหาละ 5,000 บาท จึงอยากประสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้เลิกดื่มสุราจําพวกยาดอง เพราะผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าในยาดองนั้นมีส่วนผสมใดบ้าง ทั้งนี้ในส่วนของผลการตรวจสอบยาดองที่เจ้าหน้าที่ตรวยยึดมาได้นั้น ล่าสุดผลออกมาแล้วพบว่ามีปริมาณเมทานอลสูงกว่าที่กฎหมายกําหนด

ในส่วนของคดี ทาง พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตํารวจนครบาล 3 ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคําเพิ่มเติม น.ส.ปู ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาดองที่รับวัตถุดิบมาจาก 2 พี่น้องที่ถูกตํารวจจับกุมก่อนหน้านี้ ก่อนนํามาผสมและส่งขายไปยังซุ้มต่างๆ เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเป็นคนไทยทั้งหมด จึงอยากฝากไปถึงนายจ้างของชาวต่างด้าว เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่บริโภคยาดองว่าให้รีบเข้ามาพบแพทย์ ซึ่งท่านไม่มีความผิดเพราะเป็นผู้บริโภค หากปล่อยไว้นานอาการอาจจะรุนแรงได้

ขณะที่ นายสมหวัง ชัยประกายวรร์ ผู้อํานวยการเขตคลองสามวา กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องทางผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้ทุกเขตสแกนตรวจตามชุมชนทั่ว กทม. สําหรับเรื่องการช่วยเหลือเยียวจะต้องมีการตรวจสอบสิทธิต่างๆของผู้ป่วยและเสียชีวิต

ทั้งนี้ นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางโรงพยาบาลนพรัตนฯ จะเป็นศูนย์กลางในการดูแลทั้งการตั้งรับและประชาสัมพันธ์ ซึ่งยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีศักภาพมากพอและมีเตียงพร้อมที่จะรองรับผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษจากการดื่มสุราเถื่อน อย่างไรก็ตามหากพบว่าตัวเองมีการผิดปกติและอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เคยดื่มยาดองใน 18 ซุ้มดังกล่าว ให้รีบเดินทางเข้าพบแพทย์ทันที หากมาช้าอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้

สรุปสถานการณ์ผู้ป่วยจากการดื่มเหล้าเถื่อนประจำวันที่ 27 ส.ค.2567 ล่าสุด มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 33 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 4 รามีผู้ป่วยรุนแรงที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และใส่ท่อช่วยหายใจ 14 ราย อยู่ในกลุ่มสีแดง 10 ราย สีเหลือง 10 ราย สีเขียว 4 ราย สีดำ 4 ราย

ภรรยาเหยื่อเหล้าเถื่อนรับศพสามี ท่ามกลางโศกเศร้า ฉะผู้ผสมเหล้าเถื่อนขายเห็นแก่เงินไม่ห่วงชีวิตคน

ความคืบหน้าล่าสุด ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ นางสาววนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของหนึ่งในผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อเอกสารเพื่อขอรับศพนายชาลี (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี หลังเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีจากการได้รับสารพิษเมทานอลจากการดื่มเหล้าเถื่อน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา

น.ส.นิดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ตัวเองรู้จักกับสามีมา 20 ปี มีลูกด้วยกันสองคน ปกติแล้วสามีจะดื่มเบียร์และสุราอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เลวร้าย ทั้งนี้ติดใจกับคนผลิตที่ใส่ส่วนผสมแล้วทำให้เป็นอันตรายกับคนกินเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 สามีได้กินเหล้าเถื่อนแต่ยังไม่มีอาการ จนกระทั่งวันช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค.67 สามีได้มารับตัวเองที่ทำงานพร้อมเล่าอาการให้ฟังว่ามีอาการเมามาก เวียนหัวหน้ามืด จนกระทั่งตอนเย็นตื่นมาอาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการอาเจียน เดินไม่ไหว หายใจเร็ว สายตาพล่ามัวมองไม่เห็น ยังสื่อสารรู้เรื่อง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอได้สอบถามว่ารับประทานอะไรมาเนื่องจากพบว่ามีเมทอลในร่างกายสูงทำให้เลือดเป็นกรด โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาสามีมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน แต่ก็ไม่เคยมีอาการข้างเคียง จนกระทั่งล่าสุดมีอาการผิดปกติอย่างรุนแรงและถึงแก่ชีวิต

น.ส.วนิดา กล่าวว่า ฝากถึงผู้ผสมเหล้าเถื่อนว่าเลวมาก อยากเจอหน้า และอยากจะถามว่าชีวิตคนทั้งคน ไม่น่ามาทดลองอะไรแบบนี้ หากเห็นแก่เงินตายไปก็เอาอะไรไม่ได้ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนที่สามีเสียชีวิตยังทำใจไม่ได้ รู้สึกเศร้าและไม่รู้จะพูดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ขอจัดงานสามีให้เรียบร้อยก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายสามีได้รู้จักกัน เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ละแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งกินร่วมวงเดียวกันซึ่งไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตอีกรายไปดื่มเหล้าเถื่อนจากพื้นที่ไหน เนื่องจากเสียชีวิตกันคนละโรงพยาบาล หลังจากนี้จะดำเนินการจะปรึกษากับทนายความ เพื่อรวบรวมผู้เสียหายในการฟ้องทางแพ่งกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

หลังจากนี้เมื่อจัดการเรื่องเอกสารเสร็จสิ้นแล้ว จะรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดแสนสุข เขตมีนบุรีในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.67)

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมวันนี้ #เหล้าเถื่อนยาดอง