“2 รมต.เกษตรฯ” ลุยมอบถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พะเยา-น่าน

194

“2 รมต.เกษตรฯ” ลุยมอบถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พะเยา-น่าน

เมื่อวันนี้ 23 ส.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กล่าวหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพะเยา พร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ บ้านร่องไฮ หมู่ 1 ต.แม่ใส อ.เมืองพะเยา ซึ่งมีจำนวนครัวเรือนได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน และชุมชนท่าวังควาย บ้านแม่ต๋ำ อ.เมืองพะเยา มีจำนวนครัวเรือนได้รับผลกระทบ 300 ครัวเรือน ว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน จึงได้กำชับให้ส่วนราชการของก.เกษตรฯ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ก.เกษตรฯร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า จัดตั้งโรงครัวผลิตอาหารและแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ในพื้นที่ 4 จังหวัด

ขณะเดียวกัน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จ.น่าน พร้อมมอบถุงยังชีพและเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้แก่ ต.เชียงกลาง ต.เปือ อ.เชียงกลาง ต.แงง ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว และ ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ซึ่งจ.น่านเกิดฝนตกหนักในระหว่างวันที่ 19 – 21 ส.ค.จนเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงพื้นที่เกษตร ประมง และปศุสัตว์ โดยน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ ทุ่งช้าง เชียงกลาง ปัว ท่าวังผาเฉลิมพระเกียรติ บ่อเกลือ ภูเพียง สันติสุข บ้านหลวง และ อ.เวียงสา

ทั้งนี้ก.เกษตรฯได้รับรายงานผลกระทบด้านการเกษตร ด้านพืช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 9 อำเภอ 54 ตำบล คาดการณ์พื้นที่เสียหายทั้งหมด 4,277 ไร่ จำแนกเป็น ข้าว 2,915 ไร่ พืชไร่ 1,257 ไม้ผลไม้ยืนต้น 102 ไร่ ด้านปศุสัตว์ ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 8 ตำบล 25 หมู่บ้าน เกษตรกร 1,051 ราย จำแนกเป็น โค 1,386 ตัว ไก่ 36,747 กระบือ 1 ตัว สุกร 1 ตัว แพะ 36 ตัว รวม 38,171 ตัว และแปลงหญ้า 652 ไร่ และอยู่ระหว่าสำรวจความเสียหายที่แท้จริง (หลังน้ำลด)

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำน่าน เมื่อเวลา 09.00 น. 23 ส.ค. ที่สถานีวัดน้ำ N.64 บ้านผาขวาง อ.ท่าวังผา ล่าสุดปริมาณน้ำเริ่มลดลง ขณะที่สถานีวัดน้ำ N1 สะพานพัฒนาภาคเหนือ อ.เมือง มีแนวโน้มลดลง ส่วนสถานีวัดน้ำ N13A บ้านบุญนาค อ.เวียงสา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการชลประทานน่าน รายงานว่าแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกสะสมและต่อเนื่องในพื้นที่คาดหากไม่มีฝนตกลงมา จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 5 – 7 วัน

ด้านการให้ความช่วยเหลือ

1) เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงอำเภอ สำรวจความเสียหายด้านการเกษตรช่วงเกิดภัยและภายหลังน้ำลด พร้อมทั้งชี้แจงการดำเนินการในขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป

2) โครงการชลประทานน่าน ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ณ สะพานพัฒนาภาคเหนือ เพื่อช่วยสูบน้ำระบายในพื้นที่เศรษฐกิจ (เทศบาลเมืองน่าน)

3) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดน่าน ประสานงานกำหนดจุดอพยพสัตว์ให้พร้อมในพื้นที่เสี่ยง และดำเนินการจัดแบ่งทีมเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน

4) ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดน่าน ได้เฝ้าระวังและเตรียมการรับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยการประสานงานผ่านทาง LINE กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะร่วมแรงร่วมใจกับทุกหน่วยงานเพื่อเข้าช่วยเหลือด้วยจิตอาสาตลอดสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมทรัพยากรสนับสนุน รถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร 1 คัน รถเครน 1 คัน เครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 11 เครื่อง สำรองเมล็ดพันธุ์ (กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว และพริก) เสบียงพืชอาหารสัตว์ 23 ตัน และเวชภัณฑ์ยาสัตว์ และหน่วยบริการเกษตร / ประมง / ปศุสัตว์ และหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่.

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์