“ณัฐชา” ไม่เชื่อ “ธรรมนัส” เอาอยู่ปลา “หมอคางดำ” จี้จับต้นตอมาลงโทษก่อน

139

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 จากกรณี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำว่า จัดการได้ สถานการณ์ดีขึ้นเช่นเดียวกับตั๊กแตนปาทังก้าที่คนจับมาทำอาหารจนตอนนี้หลายพื้นที่ชาวบ้านระบุว่าปลาหมอคางดำเริ่มหายาก และขอเวลาจัดการหนึ่งเดือนณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 27 พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ตนเคยลงพื้นที่ด้วยกันย่อมรู้สถานการณ์ดี เหตุที่แสดงท่าทีเช่นนี้เพราะต้องการเบี่ยงเบนการค้นหาความจริงของต้นตอการระบาดครั้งนี้ใช่หรือไม่

“สถานการณ์ดีขึ้นจริงหรือไม่ ผมคิดว่าให้เกษตรกรหรือชาวประมงเป็นคนพูดเองจะดีกว่า เพราะท่านเป็นรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรง ย่อมไม่แปลกที่จะต้องเห็นอะไรดีขึ้นไปหมด เพียงแต่ท่านไม่รู้สึกเขินบ้างเลยเหรอเพราะสถานการณ์จริงที่พี่น้องประชาชนกำลังเผชิญมันไม่เหมือนกับที่ท่านพูดแน่ๆ ของจริงในแหล่งน้ำธรรมชาติ ใครบอกหาไม่ได้จะพาไปชี้เป้า ส่วนบ่อกุ้ง บ่อปู ตอนนี้เจ๊งกันหมดแล้ว ข่าวลงทุกวันลงทุนไปหลายแสนจับขึ้นมาในบ่อมีแต่ปลาหมอคางดำ ถามหน่อยใครจะรับผิดชอบความเสียหายให้พวกเขา ตอนนี้มาตรการเยียวยาชัดเจนยังไม่มีแล้วบอกเอาอยู่ได้อย่างไร” สส.ก้าวไกลกล่าว

ณัฐชา กล่าวว่า การขอเวลาจัดการหนึ่งเดือน นั้นตนไม่เชื่อเพราะให้เวลามาจะครบปีแล้ว การไปเทียบกับกรณีปาทังก้า ถือเป็นคนละบริบทกัน เพราะปลามันอยู่ในน้ำ ซ่อนในโคลน อมไข่ไปด้วยท่านมองไม่เห็น รอดไปหนึ่งตัวแพร่พันธุ์ร้อยตัว ไม่ได้บินเป็นฝูงให้เห็นชัดเหมือนตั๊กแตน จับมาทอดกินหมดฝูงก็หมดไม่ทันได้วางไข่ แต่นี่มันแพร่พันธุ์ได้ง่ายโดยไม่มีผู้ล่าและกระจายไปตามลำน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ

“เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ผมจึงอยากขอร้องอย่าให้ข้อมูลแบบใจดีสู้เสือ เพราะถ้าท่านทำได้จริงคงเห็นผลงานตั้งแต่ผมตั้งกระทู้ถามในสภาเมื่อปีก่อนแล้ว ท่านรับคำขึงขัง ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ แม้มีการขยับขับเคลื่อนจริง แต่ขนาดตอนนั้นสถานการณ์ยังไม่รุนแรงเท่าตอนนี้ ปัญหาจำกัดแค่โซนลุ่มน้ำสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียง ท่านยังคุมไม่ได้ ตอนนี้เท่าที่เห็นท่านก็ยังคงใช้วิธีการเดิมๆ ที่ไม่ได้ผลมาทำต่อ นอกจากงบที่มากขึ้น อย่างอื่นไม่เปลี่ยน โดยที่สถานการณ์การระบาดขยายตัวกระจายไปทั่วประเทศ วิธีเดิมแต่คาดหวังผลลัพธ์เปลี่ยน ผมไม่เชื่อครับ” รองประธาน กมธ.ปลาหมอคางดำฯ กล่าว

ณัฐชา กล่าวต่อไปว่า หน้าที่ท่านที่ควรทำอย่างจริงจังคือประกาศต่อสาธารณะว่าจะลากตัวต้นตอสาเหตุผู้กระทำความผิดทำลายระบบนิเวศของประเทศไทยและทำลายสิ่งแวดล้อมไปอย่างมหาศาลขนาดนี้มารับผิดชอบให้ได้ ประกาศด้วยความมั่นใจไปเลยว่าจับตัวได้แน่ ก่อนนี้ท่านตั้งคณะกรรมการค้นหาความจริง ขีดเส้นไว้ 7 วัน นี่ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วเรื่องยังเงียบ ทั้งที่มีข้อมูลบ่งชี้เต็มไปหมดว่ามีการนำเข้ามาโดยเอกชนเจ้าเดียว ดีเอ็นเอก็บ่งชี้ต้นตอเดียวกัน การที่ท่านสื่อสารด้วยท่าทีที่บอกว่าเป็นสถานการณ์เล็กๆ รับมือได้ เหมือนท่าทีของรัฐบาลชุดนี้ที่สื่อสารไป ในทางเดียวกัน เป็นเพราะกำลังปกป้องหรือออกรับแทนใครหรือเอกชนรายใดหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ช่วยทำความจริงให้กระจ่างตามที่เคยรับปากไว้ด้วย

“ในทางกลับกัน หากท่านทำเรื่องนี้สำเร็จ ท่านจะสามารถเปลี่ยนวิกฤตนี้สู่วีรบุรุษได้ แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายรัฐมนตรี ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความกล้าหาญในฐานะนักการเมืองที่ยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมาก่อนสิ่งใดทั้งหมด ดังนั้น หากเรื่องนี้จบได้ในสมัยท่านอย่างเต็มรูปแบบ ชื่อของท่านจะถูกจารึกไว้ในใจประชาชน แต่ถ้าไม่ผลก็เป็นอีกทาง อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอย้ำอีกครั้งว่า สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องหาตัวการต้นตอมารับผิดชอบให้ได้ อย่าปล่อยเงียบเหมือนคราวกรณีหมูเถื่อน” ณัฐชา ระบุ

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #ปลาหมอคางดำ #ณัฐชาบุญไชยอินสวัสดิ์ #กมธ.ปลาหมอคางดำ #ธรรมนัสพรหมเผ่า #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์