‘เหรียญทรงผนวช’

384

หนึ่งในสุดยอดวัตถุมงคลประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ไทย อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ

    “หากปุถุชนคนใดได้ทำการ บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวและระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า จุดประทีปบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กางร่มถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือตัวแทนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือตัวแทนเป็นประธาน บูชาพระเจดีย์หรือพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจ้าภาพกองกฐิน ผ้าป่า สร้างพระไตรปิฎก หรือสร้างหนังสือธรรม เพื่อเป็นธรรมทาน ทำทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นด้วยจิตที่มีความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแท้จริง เมื่อละสังขารแล้ว ในภพภูมิใหม่จักได้เสวยราชสมบัติเป็น พระเจ้าจักรพรรดิ”

    ทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมาคืออานิสงฆ์ผลบุญของผู้จะได้เกิดเป็นราชันขั้นจักรพรรดิ แต่มิใช่ว่าแค่ทำบุญตามที่กล่าวมาแค่ครั้งสองครั้งแล้วอานิสงฆ์จะส่งผลให้เป็นเลยก็หาไม่ ผู้จะเป็นมหาราชได้นั้นจะต้องทำบุญบริจาคทานด้วยความเลื่อมใสศรัทธาอันแรงกล้าตลอดช่วงอายุสะสมมาต่อเนื่อง บางทีก็ต่อเนื่องรวมกันหลายชาติภพ ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่ง่ายกว่าที่ใครจะมีบุญพอได้มาเกิดเป็นกษัตริย์ยิ่งถึงขั้นมหาราชนั้นยิ่งยาก แต่ประเทศไทยของเรานั้นนับว่าโชคดีกว่านานาประเทศเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้งอดีตเรามีราชันที่ถึงขั้นมหาราชอยู่หลายพระองค์ ทุกพระองค์ก็ทรงสร้างคุณูปการให้กับคนไทยมามากมาย และสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับกันว่ามีอิทธิพลต่อแนวคิดแนวปฏิบัติของกษัตริย์ไทยในแทบทุกยุคก็คือ พุทธศาสนา

( รูปในหลวงรัชกาลที่10 ขณะทรงผนวช )

  ทศพิธราชธรรม คือหลักจริยะแห่งพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงยึดถือเป็นแนวทางในการปกครองแผ่นดินของไทยเสมอมาและนอกจากทุกพระองค์จะทรงยึดหลักธรรม 10 ประการนี้แล้ว สิ่งหนึ่งที่พระมหากษัตริย์ไทยแทบทุกพระองค์ทรงดำเนินก็คือ การผนวช หรือการบวชเพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามหลักธรรมเนียมประเพณีไทย
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ล้นเกล้าในรัชกาลปัจจุบันเองก็ทรงมีพระราชศรัทธาออกผนวชเพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีทรงผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุสาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลง กรโณ” และได้ประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2521

( รูปเหรียญทรงผนวช รัชกาลที่10 ปี2521 )

ในวาระอันเป็นมหามงคลนี้เองที่ได้ถือกำเนิดอีกหนึ่งสุดยอดวัตถุมงคลแห่งสยามประเทศ นั่นคือ เหรียญทรงผนวช เหรียญรัชกาลที่ 10 ทรงผนวชนี้ ดำเนินจัดสร้างโดยวัดบวรนิเวศวิหาร ในปีเดียวกับที่ทรงเสด็จออกผนวช วันที่ 6 เดือน 11 พ.ศ.2521 ครั้งยังดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร

รายละเอียดของเหรียญทรงผนวชนี้ ประกอบด้วย

(1)เหรียญบาตรน้ำมนต์ ขนาด 7 ซม. เนื้อทองแดง 
(2) เหรียญเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง(แกะเลข) เป็นชุดจำนวน 109 ชุด
(3)เหรียญเงินเดี่ยวๆ แกะเลขจำนวน 999 เหรียญ
(4)เหรียญทองแดงกะไหล่ทอง 
(5) เหรียญทองแดงรมน้ำตาลจำนวน 84,000 เหรียญ ออกจำหน่ายเหรียญละ 50 บาท

วัตถุมงคลชุดนี้ทำพิธีปลุกเสกถึง 3 วาระคือ ครั้งที่ 1 ปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง ในปี พ.ศ.2517 ครั้งที่ 2 เข้าร่วมปลุกเสกกับ พระสมเด็จทรงจิตรลดา นางพญา (หลังอุณาโลม ) และหลัง สก. ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ใน วันที่ 12 ก.ค. 2519 เป็น เวลา 7 วัน 7 คืน ครั้งที่ 3 ปลุกเสกพร้อมสมเด็จนางพญา ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวร นิเวศวิหาร ระหว่างวันที่ 9 – 12 เม.ย. 2522

พระเกจิคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกรวบรวมได้พอสังเขป ดังนี้ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ สมเด็จพระวันรัต วัดสังเวชวิศยาราม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพระพุทธิ วงศมุนี วัดเบญจมบพิตร พระพรหมคุณากรณ์ (เกี่ยว) วัดสระเกศพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี พระราชธรรมวิจารย์ (หลวงปู่ธูป) วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) พระราชสังสรวิสุ ทธิ์ (บุญเลิศ) วัดราชสิทธาราม พระเทพวราลังการ (ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี พระภาวนาวิมลเถร (สิริ) วัดชนะสงคราม พระวิสุทธิสารเถร (ถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม จ.อุดรธานี พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวพ่อสุด) วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต จ.หนองคาย พระครูธรรมกิจโกศล (นอง) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต จ.หนองคาย พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี พระครูสังวรธรรมมานุวัตร (พล) วัดหนองคณฑี จ.สระบุรี หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี พระครูถาวรวิทยาคม (เพิ่ม)วัดสรรเพชญ จ.นครปฐม หลวงพ่อจันทร์ (อายุ 102ปี) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี พระมหาวีระ (ฤาษีลิงดำ) วัดจันทาราม จ.อุทัยธานี หลวงพ่อซ้วน วัดท่าลาดใต้ จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ

      เรียกได้ว่าเป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลที่รวมพุทธคุณ เทวาคุณ และประจุความเข้มขลังพลังแห่งจิตที่มากที่สุดครั้งนึงทีเดียว และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เหรียญทรงผนวช ของล้นเกล้าฯในหลวงรัชกาลที่ 9 รุ่นแรกปี 2508 นั้นเป็นเหรียญสิริมงคลยอดนิยมที่มากด้วยคุณค่า มากด้วยประสบการณ์ และราคาเช่าหา เป็นที่เสาะหาของบรรดานักสะสมวัตถุมงคลและเหรียญที่ระลึกสายเชื้อพระวงศ์และเหรียญทรงผนวชในหลวง รัชกาลที่ 10 ปี 2521 นี้ นับเป็นเหรียญที่ทรงพุทธคุณและคุณค่าไม่ต่างจาก เหรียญทรงผนวช รัชกาลที่9 ควรค่าแก่การมีไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล ยิ่งตอนนี้ราคาเช่าหายังจับต้องได้ในเหรียญสวยๆ อย่ารอจนวันนึงต้องบอกกับตัวเองว่า รู้งี้เก็บไว้ตั้งแต่ตอนนั้นก็ดีแล้ว

สุดท้ายนี้ ขอกราบเรียนแฟนคอลัมน์พระบ้านทุกท่านว่า ด้วยเหตุปัจจัยบางประการ คอลัมน์พระบ้านขออนุญาตพักการนำเสนอบทความในคอลัมน์นี้ กระผม นายต้น คนชอบพระ ขอบกราบขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่รักและเคารพยิ่งของผม ขออำนาจสิ่งศักสิทธิ์ช่วยดลให้ท่านผู้อ่านทุกท่านประสบแต่โชคดี มีเงินใช้ร่างกายแข็งแรงตลอดไปครับ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เพจหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์และสื่อโซเชี่ยลครับ