ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจแทนประชาชนคนไทยที่ได้ สว.ใหม่ 200 คน ท่ามกลางเสียงก่นด่า “ระบบ” ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนมีความรู้ความสามารถ แต่มอบโอกาสให้คนใช้เทคนิค ซิกแซกหาทางเข้ามากินภาษี และควบคุมชะตากรรมของประเทศที่น่าห่วงอยู่แล้วให้น่าห่วงเข้าไปมากกว่านั้นอีก
คำถามที่ว่า สว.มีไว้ทำไมจึงดังขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ มีคนขับรถ ตลอดจนพิธีกรงานศพ คนจัดเสียงตามสาย เข้ามาเป็นตัวแทนสื่อ แทนที่คนในวิชาชีพที่เข้าใจปัญหาจะสามารถผลักดันวาระต่างๆ ใช้ความสามารถในการผ่านกฎหมายสำคัญของประเทศ แต่คนที่ชนะด้วยเทคนิค การบล็อกโหวต กระทั่งฮั้วกันเข้ามา โดยที่ประชาชนได้แต่มองตาปริบ ๆ ว่าเราจะฝากความหวังไว้ที่คนเหล่านี้ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ
ปัญหาไม่ได้อยู่คนที่มีวุฒิการศึกษาไม่สูงหรือประกอบอาชีพไม่ตรงปก ได้เป็นวุฒิสภา แต่ปัญหาหัวใจสำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐรับรองมาได้อย่างไร ตรวจสอบกันแบบใดถึงปล่อยให้หลุดไม่ตรงตามสายและความสามารถได้ถึงเบอร์นี้ แม่บ้าน คนตัดหญ้า คนขับรถเจ้านาย เด็กในบ้านใครก็สมัครได้แต่มันก็มีกลุ่มอื่น ๆ มีวิชาชีพอื่น ๆ ที่เป็นตัวแทนประชาชนไปแข่งกันในระบบในลู่ที่ถูกต้องก็ได้ แต่การกระจายลงเอาคนของตัวเองไปฝังตามกลุ่มต่างๆ แล้วไม่มีความรู้ความเข้าใจถ่องแท้ในสาขานั้นๆ ประเภทที่เรียกว่า ท่องเลขกันมา เข้ามาเป็นชุด จนถูกสังคมตั้งคำถามว่านี่จะดูถูกสภาสูงได้ถึงเพียงนี้เลยหรือมันจึงดังขึ้นและจะเป็นปัญหาในอนาคตแน่นอน
ลองจินตนาการเล่น ๆ หากปล่อยให้คนที่เข้ามาแบบนี้อภิปรายในวาระซับซ้อนทางกฎหมาย ที่จำต้องอาศัยคนมีประสบการณ์และชำนาญเฉพาะทาง การทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายของคนเหล่านี้จะกลายเป็น “ศูนย์” หรือไม่ ? ในทางหนึ่งศูนย์นี้ก็หมายถึง 0 คือไม่มีค่า = ว่างเปล่า ไม่สามารถหาคำตอบ ชี้ทางออกให้สังคมได้ อีกนัยหนึ่ง ต้องหา “ศูนย์” ศูนย์กลางที่สั่งได้ว่าควรจะเป็นอย่างไร หันซ้ายหันขวาเดินหน้าถอยหลัง แล้วสังคมมันจะหวังพึ่งพาอะไรได้ ถ้าเขาจะอ้างว่าเขาก็เป็นตัวแทนประชาชนจากจังหวัดต่างๆ
ก็ลองหันไปดูเถิดครับ จังหวัดอะไรเข้ามามาก และรากฐานจากจังหวัดนั้นๆ มีพรรคการเมืองใดเป็นฐานอยู่ และกรุณากลับไปย้อนต้นทางคือเจ้าหน้าที่ปล่อยให้คนสมัครไม่ตรงกลุ่ม หรือคัดกรองคุณสมบัติแบบนี้เข้ามาได้อย่างไร บางคนดูถูกประชาชนมากด้วยการเขียนแนะนำตัวแบบสั้น ๆ 1ประโยค ไม่มีโปร์ไฟล์ แต่มีความใกล้ชิดกลุ่มก้อนการเมือง ย้ำอีกครั้งเราไม่ได้บอกว่าตาสีตาสาสมัครไม่ได้ แต่ต้องไปสมัครให้ตรงกลุ่ม กลุ่มอื่น ๆ ช่วยกันกรองเข้ามา แต่วันนี้จะเห็นว่าจากสัดส่วนที่มีคนที่ตรงสาขาอาชีพมีแต่ความพิลึกพิลั่น มันก็สะท้อนได้เลยว่าอนาคตประเทศจะมีอะไรประหลาด ๆ รออยู่อีกเพียบ
“การแก้รัฐธรรมนูญก็ดี การปฏิรูปประเทศก็ดี การแก้ไข หรือผ่านกฎหมายต่าง ๆ ก็ดี ถ้าท่านเชื่อว่าคนเหล่านี้(ที่มีจำนวนไม่น้อย) จะทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมแล้วหละก็ ขอแสดงความยินดี ล่วงหน้าว่าประเทศเรามันพัฒนาได้แค่นี้ ไม่แปลกที่หลายชาติมองข้ามการลงทุน คนรุ่นใหม่สมองไหลอยากย้ายประเทศ การเมืองเป็นเรื่องคนไม่กี่คน แล้วมันได้รับการอนุญาตให้เจริญได้ตอนไหน กี่โมง ?”
คนที่ว่ามาเหล่านั้นเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่กลุ่มการเมืองที่เห็นแก่ตัว เล่นแต่การเมืองจนดูถูกประชาชนเอาคนแบบไหนมาสมัครก็ไม่รู้น่าตำหนิ เพราะคนที่มีความรู้ความสามารถเขาก็สมัครมาไม่น้อย แต่ถูกระบบแบบนี้แฮค กลุ่มการเมืองที่เห็นแก่ตัวบล็อก จับกลุ่มจับก้อน ไม่สนสี่สนแปดจะเอาแต่ตำแหน่งและรอแสวงประโยชน์ในภายภาคหน้า ปิดโอกาสการพัฒนา
จะว่าไปคนพวกนี้มันก็หากินกับประเทศมาอยู่ตลอดเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่กินประโยชน์อย่างยาวนาน สักวันหวังว่าประชาชน คนรุ่นใหม่ จะได้สั่งสอนผ่านเสียงผ่านสิทธิ์ที่มี ประเทศนี้จะได้เจริญสักที ไม่งั้นเหมือนประเทศที่ถูกต้องคำสาป ไม่ถูกอนุญาตให้เจริญเพราะมีเห็บ มีไร มียุงรำคาญมาเกาะกิน หาช่องว่าง อาศัยช่องโหว่นำคนไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมมานั่งตำแหน่งสำคัญที่คุมชะตาประเทศเราได้ องค์กรอิสระ กฎหมาย กลายเป็นอยู่ในมือคนเหล่านี้ทั้งหมด หวังว่าคนที่แคร์ประชาชนใน สว.จะมีไม่น้อยและช่วยกันกระชากหน้ากากคนไร้ความสามารถให้สังคมลงทัณฑ์สักทีเถิด!