แปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทยต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช
สร้างมูลค่าผลผลิตจากการเลี้ยงผึ้ง สู่รายได้ปีละ 178,440 บาท
นายนิกร แสงเกตุ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จ.สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามผลการดำเนินงานของแปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทย ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ปี 64 นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างกลุ่มแปลงใหญ่ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและประสบความสำเร็จ สามารถต่อยอดโครงการยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐาน และเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมแปรรูปน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆตามความต้องการของตลาด ซึ่งแปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทย ต.แก้วแสน เริ่มดำเนินการเมื่อปี 62 ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิก 37 ราย มีนายสิทธิพร พรหมเมือง เป็นประธานแปลงใหญ่ เลี้ยงผึ้งโพรงรวม 459 รัง (เฉลี่ย 12.4 รัง/ราย) สมาชิกส่วนใหญ่มีอาชีพหลักเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปลูกผลไม้ จึงมีการเลี้ยงผึ้งเสริมรายได้จากพืชเชิงเดี่ยว เพื่อลดความเสี่ยงช่วงราคาพืชผลตกต่ำ ปัจจุบันได้พัฒนาศักยภาพกลุ่มทั้งด้านการผลิตและการตลาดอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตจากการเลี้ยงผึ้งให้กับกลุ่มเกษตรกรและสมาชิก
สำหรับการดำเนินงานในปี 66 ทางกลุ่มจะรับซื้อรังผึ้งจากสมาชิก 200 บาท/กิโลกรัม ซึ่งปริมาณการผลิตน้ำผึ้งแต่ละปีจะขึ้นอยู่กับสภาพธรรมชาติ หากฝนตกมากจะมีน้ำผึ้งน้อยลง โดยจำหน่ายน้ำผึ้งแท้บรรจุขวด ขนาด 100 – 750 มิลลิกรัม/ขวด จำหน่ายราคา 79 – 500 บาท/ขวด นอกจากนี้ ได้พัฒนาต่อยอดผลผลิตแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเช่น สบู่ แชมพู และเน้นการจัดการของเสียเป็นศูนย์ (zero waste) ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยนำรังผึ้งที่เหลือทิ้งจากการผลิตมาผลิตเป็นไขผึ้ง จำหน่ายในราคา 100 บาท/ก้อน และนำเศษไม้เหลือทิ้งในชุมชนมาผลิตเป็นรังผึ้งจำหน่ายชุดละ 750 บาท โดยจ้างแรงงานในชุมชนพร้อมการติดตั้ง 200 บาท/กล่อง สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์จากผึ้งคิดเป็นมูลค่าทั้งกลุ่มรวม 178,440 บาท/ปี ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 90 จำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง ส่วนที่เหลือร้อยละ 8 จำหน่ายผ่านแพตฟอร์มออนไลน์ www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com และ Facebook ของสมาชิกกลุ่มและเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งในอำเภอ ที่เหลือร้อยละ 2 จำหน่ายในการจัดประชุมสัมมนาต่าง ๆ ของส่วนราชการในจังหวัด ภายใต้แบรนด์ “ฮันนี่ บี นาบอน”
ทั้งนี้ แปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทย ต.แก้วแสน ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมตามเป้าหมายของแปลงใหญ่ 5 ด้านที่สำคัญ คือ การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต การพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน การเชื่อมโยงตลาด และการบริหารจัดการกลุ่ม ซึ่งเป้าหมายในอนาคต กลุ่มจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ด้านการศึกษาวิจัยเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งให้มีความหลากหลาย และตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น หากท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตของแปลงใหญ่ผึ้งโพรงไทย ต.แก้วแสน สอบถามได้ที่ นายสิทธิพร พรหมเมือง ประธานแปลงใหญ่ โทร 08 4852 0638 หรือ สอบถามรายละเอียดผลการติดตามประเมินโครงการ ได้ที่ สศท.8 โทร. 0 7731 1641 อีเมล zone8@oae.go.th
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์