นักวิจัยไทยเปิดอบรมการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทเชิงพาณิชย์ฟรีให้เกษตรกร

516

สุดยอดนักวิจัยไทยจาก วช. ประสบความสำเร็จในการพัฒนาองุ่นไชน์มัสแคทเชิงพาณิชย์ นำทีมถ่ายทอดวิทยายุทธให้แก่เกษตรกรแบบหมดไส้หมดพุงไม่มีกั๊ก แถมไม่เก็บเงินสักบาท หวังเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ เพิ่มช่องทางทำกินให้แก่เกษตรกร



ที่ห้องประชุม คณะวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยนเรศวร รศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผอ.ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) และผอ. สถานความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ม.นเรศวร กล่าวหลังเปิดการอบรมการผลิต องุ่นไชน์มัสแคทเชิงพาณิชย์ ว่า องุ่นไชน์มัสแคทถูกปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี 31 ที่ประเทศญี่ปุ่น และขึ้นทะเบียนพันธุ์ในปี 49 มีลักษณะเด่นคือผลกลม ขนาดใหญ่ ผิวสีเขียวอ่อนสวยงาม เนื้อแน่นกรอบหวานอร่อยไม่แตกง่าย ไม่ฝาด ทนร้อนหนาวได้ดี ที่สำคัญรสหวานละมุนลิ้น ปราศจากเมล็ด กลายเป็นองุ่นยอดนิยมราคาแพง ที่ญี่ปุ่นราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2,000-5,000 บาท จนมีคำเปรียบเปรยว่า คนซื้อไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ซื้อ นิยมมอบเป็นของขวัญล้ำค่า ซึ่งการเปิดอบรมในวันนี้ได้รับความสนใจจากเกษตรกรรุ่นใหม่เข้าร่วมอบรมทั้งทางออนไซต์และออนไลน์กว่า 160 คน



รศ.ดร.พีระศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือจากดร.ชินพันธ์ ธนาวุธ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้มีความรู้และคลุกคลีทำวิจัยเรื่ององุ่นมากว่า 30 ปี โดยจะมาบรรยายเรื่อง การผลิตองุ่นไชน์มัสแคทเชิงการค้า การผลิตแบบประณีต และ นายวรเชษฐ์ ขัติยะ เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกองุ่นไชน์มัสแคท มาบรรยายเรื่องการปลูกองุ่นมืออาชีพจากประสบการณ์ตรง และการที่เราสามารถเปิดอบรมฟรีนั้นเพราะ วช.ได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาไชน์มัสแคทมาตั้งแต่ปี 62 เริ่มจากนำคณะเดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำเทคนิคการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทมาดำเนินการในประเทศไทย โดยทีมงานได้ศึกษาขั้นตอนการดูแลบำรุงรักษาจากประเทศเจ้าของสายพันธุ์มาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย กระทั่งได้สูตรสำเร็จตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของสี ลักษณะผล จนสามารถได้ไชน์มัสแคทไร้เมล็ด โดยทดลองปลูกที่จ.พิษณุโลก เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และตาก ได้ผลเป็นที่น่าพอใจและได้เปรียบกว่าการผลิตในญี่ปุ่นซึ่งมีผลผลิตปีละครั้ง ขณะที่ประเทศไทยสามารถให้ผลผลิตปีละ 2 ครั้ง จนเป็นกรณีศึกษา ทำให้ปัจจุบันญี่ปุ่นมีกฏหมายห้ามนำพันธุ์พืชออกนอกประเทศ เพราะได้รับบทเรียนจากการที่มีองุ่นไชย์มัสแคทไปปลูกอย่างแพร่หลายในจีน เกาหลี และไทย



“จากการที่ทดลองปลูกไชน์มัสแคทได้ในหลายพื้นที่ ทำให้ทราบปัญหาและมีองค์ความรู้ จนสามารถจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ในการผลิตไชน์มัสแคทเชิงพาณิชย์ให้แก่ผู้สนใจ เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นผลไม้ทางเลือก สร้างรายได้อีกชนิดหนึ่ง เพราะถ้าปลูกอย่างถูกวิธี เนื้อที่ 100 ตารางวา สามารถทำเงินได้ถึง 6 แสนบาทต่อปีเลยที่เดียว”
รศ.ดร. พีระศักดิ์ กล่าว

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวเกษตร