มหาเทพต้นกำเนิด ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งจนถูกกล่าวขานนามว่า มหาพรหมธาดา อ่านสนุกแบบมีทั้งศรัทธาและพาณิชย์ไปกับ คอลัมน์พระบ้าน by ต้นคนชอบพระ
คาถาบูชาพระพรหม (คติพุทธ)
ตั้งนะโม 3 จบ พร้อมกล่าวคำบูชาว่า
“โอม พรหมมะเณ ยะนะมะ โองการพินทุ นาถังอุปปันนาถัง สุอาคะโต ปัญจะปะทุมมัง พรหมมาสะหัมปะตินามัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทานัง”
( รูปพระพรหมกับพระแม่สรัสวดี )
พรหมลิขิต คำนี้เป็นการกล่าวถึงหนึ่งในมหาเทพทั้งสามของศาสนาฮินดู อันประกอบด้วย พระพรหม พระนารายณ์ พระศิวะ มหาเทพทั้งสามมีมาหาเทวคุณที่ต่างกันไปอย่าง พระพรหมที่ว่ากันว่ามีเทวคุณเป็นผู้สร้างทุกสรรพชีวิตในโลกนี้และมักคอยดูแลชะตาชีวิตความเป็นไปต่างๆของสรรพสิ่ง พระนารายณ์มีเทวคุณเป็นผู้ปราบคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายในโลกและต่างโลกที่จะมาทำอันตรายแก่โลกและจักรวาล ส่วนพระศิวะเจ้าถือคติเป็นผู้รับหน้าที่ทำลายสรรพสิ่งเมื่อถึงคราวที่สรรพชีวิตในโลกถึงกาลสิ้นยุคไร้ซึ่งสามัญสำนึกอันดีงามเพื่อที่ผู้สร้างหรือก็คือพระพรหมจะรังสรรค์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง วนเวียนเป็นวัฏจักร ในทางพุทธก็คือสังสารวัฏนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงมักกล่าวถึงและบูชาพระพรหมเพื่อความหวังที่ว่าเมื่อพระพรหมพอใจจะได้ลิขิตชีวิตให้มีความราบรื่นดั่งใจหมาย
กำเนิดของพระพรหมนั้นค่อนข้างจะสับสนเพราะในตำนานหลาย ๆเล่ม มีเรื่องเล่าแตกต่างกันไป บ้างก็ว่าพระพรหมถือกำเนิดในไข่ทอง อีกตำราก็ว่าพระพรหมถือกำเนิดในดอกบัวอันผุดขึ้นจากพระนาภีของพระนารายณ์ที่บรรทมหลับอยู่บนหลังอนันตนาคราช ณ เกษียรสมุทร และบางที่ก็ว่าพระพรหม กำเนิดมาจากการแบ่งภาคของพระพิษณุ เมื่อคราวที่พระพิษณุจะทรงสร้างโลก ซึ่งก็แล้วแต่ว่าตำราเล่มนั้นนิกายไหนเป็นผู้แต่ง หากเป็นนิกายที่เชิดชูพระนารายณ์ก็แต่งให้พระนารายณ์เด่นเป็นพระเอก ส่วนของอีกสองมหาเทพก็เป็นพระรองไป แต่ถ้าเอาตามตำนานดั้งเดิมฝั่งที่บูชาพระพรหมอันจัดว่าเป็นช่วงต้นยุคของศาสนาพราหมณ์แล้วจะมีตำนานที่เล่าว่าพระพรหมหรือที่เรียกกันว่า “อาปวะ” เป็นผู้ถือกำเนิดได้ด้วยตัวเองได้แบ่งพระองค์เองออกเป็น 2 ภาค ภาคหนึ่งเป็นชาย คือตัวองค์พระพรหมเอง และอีกภาคหนึ่งเป็นหญิงมีนามว่า ศตรูปา หรือพระแม่สรัสวดี แล้วช่วยกันสร้างเหล่าเทวดา มนุษย์ สัตว์ อสูร พืชพันธุ์และสรรพสิ่งในโลก
พระพรหมมีวรกายเป็นสีแดง มีสี่เศียรหรือสี่หน้า แต่บางตำรากล่าวว่าพระพรหมมีห้าหน้า ต่อมาปรากฏว่าพระพรหมได้ทำให้พระศิวะโกรธฐานกล่าววาจาสบประมาท พระศิวะจึงใช้ดวงพระเนตรที่สามตรงกลางหน้าผากที่ปกติจะหลับตาดวงนี้ไว้เสมอ หากเมื่อไหร่ที่พระศิวะลืมดวงตาที่สาม ก็มักจะบรรลัยไปทั้งจักรวาลเสมอๆ พอพระศิวะท่านเพ่งไปที่หน้าที่ห้าของพระพรหมทำให้เพลิงไหม้หน้านั้นเป็นจุลไป เศียรของ พระพรหม จึงเหลือสี่เศียรหรือสี่หน้ามาจนปัจจุบัน แต่อันนี้คาดว่าน่าจะแต่งจากนิกายที่บูชาพระศิวะมากกว่าเพราะเอาจริงๆศักดิ์ของมหาเทพทั้งสามนั้นเท่ากันคงไม่มาปากดีใส่กันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือเหมือนปุถุชนเช่นเราหรอกกระมัง นอกจากมี4หน้าแล้วพระพรหมท่านยังมี 4 กร ในมือถือธารพระกรหรือไม้เท้า 1 ข้าง ช้อน 1 ข้าง หม้อ 1 ข้าง คัมภีร์ 1 ข้าง มีประคำคล้องพระศอ มีศาสตราเป็น ธนูชื่อปรวีตะ มีหงส์เป็นพาหนะ บางนิกายว่าเป็น ม้าขาว ที่สิงสถิตของพระพรหมเรียกว่า พรหมพฤนทา อยู่ใน พรหมโลก ที่อยู่ของพระพรหมนี้ในไตรภูมิพระร่วงกล่าวไว้ว่าสูงกว่าสวรรค์ แบ่งพรหมไว้หลาย ประเภท แต่หลักๆคือ รูปพรหม กับ อรูปพรหม พรหมที่เรียกว่ารูปพรหมนั้นมีถึง 16 ชั้น คือ พรหมปาริชชาภูมิ พรหมปโรหิตาภูมิ มหาพรหมาภูมิ ปริตตาภูมิอัปปมานาภูมิ อาภัสสรภูมิ ปาริตตสุภาภูมิ อัปปมาณสุภาภูมิ สุภกิณหาภูมิ เวหัปผลาภูมิ อสัญญีภูมิ อวิหาภูมิ อตัปหาภูมิ สุทัสสาภูมิ สุทัสสีภูมิ อกนิฏฐาภูมิ พรหมทั้ง 16 ชั้นนี้มีแต่บุรุษไม่มีสตรีเพศ องค์พระพรหมจะประทับนิ่งไม่ไหวติงโดยตลอด
พรหมที่เป็นอรูปพรหมนั้นอยู่สูงขึ้นไปจากชั้นของรูปพรหม เป็นพรหมที่ไม่มีรูป มีแต่จิต มีทั้งหมด 4 แบบ อากาสายัญจายตน วิญญาณัญจายตน อากิญจัญญายต และ เนวสัญญานายน ผู้ที่จะไปบังเกิดเป็นพรหมได้จะต้องบำเพ็ญตบะ ฌาณ เบื้องต้นตั้งแต่ปฐมฌาณ จนถึงปัญจมาฌาน ส่วนใครจะได้ไปอยู่ในพรหมโลกชั้นใดก็แล้วแต่ภูมิฌาณที่ได้สำเร็จ พระมเหสีของพระพรหมคือพระสรัสวดี ผู้ซึ่งเกิดจาการแบ่งภาคของพระพรหม อัธยาศัยของพระพรหมนั้น กล่าวว่า ใจดี ใจเย็น ไม่ขัดคอใคร ใครขอพรเป็นต้องได้ (และอุปนิสัยอันนี้แหละที่ทำให้เหล่าคนและยักษาอสูรนิสัยไม่ดีชอบมาหลอกขอพรบ่อยๆ) ในศาสนาพุทธนั้น พระพักตร์ของพระพรหมทั้งสี่หมายถึงพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ที่แผ่ไปทั่วทุกสารทิศ ดั่งตอนที่พระพรหมมาทูลอาราธนาให้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปทรงโปรดเวไนยสัตว์ ส่วนพระสรัสวดีพระมเหสีเอกของพระพรหม พวกพราหมณ์ทั้งหลายถือว่าเป็น เจ้าแห่งปัญญาและวิชาการทั้งหลาย เป็นมารดาแห่งพระเวท และเป็นผู้คิดหนังสือเทวนครี รูปของพระสรัสวดี เป็นหญิงสาวสวย มีกายสีขาวนวล มี 4 กร หัตถ์เบื้องขวาถือดอกไม้บูชาพระพรหม อีกหัตถ์หนึ่งถือคัมภีร์ใบลาน หัตถ์เบื้องซ้ายมีสายสร้อยไข่มุกเรียกว่า ศิวมาลา ถือกลอง และอีกหัตถ์หนึ่งถือพิณ มักประทับอยู่บนแท่นดอกบัวหรือประทับอยู่บนหลังนกยูง แต่บางทีก็ใช้หงส์ พระพรหมกับพระสรัสวดีได้ทรงช่วยกันสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายให้เกิดขึ้นในโลกและพระสรัสวดีทรงเป็นผู้ ริเริ่ม คิดสร้างอักษรเทวนาครี และภาษาสันสกฤตขึ้นในโลก ทั้งยังพอพระทัยอุปถัมภ์อักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์อีกด้วย
( รูปพระพรหมเนื้อผง5เหลี่ยมวัดโบสถ์ดอนพรหม )
พอมาถึงตรงนี้หลายท่านก็คงเริ่มอยากไปไหว้พระพรหมกันบ้างแล้วหรืออาจจะอยากจัดหาวัตถุมงคลรูปแบบพระพรหมมาไว้ติดกายไว้ใช้ประจำตัวกัน ซึ่งในวงการพระเครื่องก็มีเกจิคณาจารย์หลายท่านสร้างเอาไว้ให้ได้ใช้บูชากันแต่ตามไสตล์ของคอลัมน์พระบ้านที่จะเน้นหาของดีราคาไม่แพงแต่จะแรงในอนาคตมานำเสนอให้กับมิตรรักนักอ่านกันและในวันนี้ขอนำเสนอด้วยความภูมิใจใน
วัตถุมงคลพระพรหมเนื้อผง5เหลี่ยมของวัดโบสถ์ดอนพรหม ต.บางกร่าง อ.เมือง จ. นนทบุรี ที่มีหลวงพ่อศิลาแลง ที่มีอายุกว่า 200 ปี และองค์พระพรหมมหาเทพ ที่มีความศักด์สิทธ์ชาวบ้านให้ความเลื่อมศรัทธา อันพุทธคุณและเทวคุณขององค์พระพรหมเนื้อผง 5 เหลี่ยมนั้น ว่ากันว่าสามารถบันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ไม่ว่า จะเป็นเรื่องการงาน สติปัญญา เมตตาโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ในการจัดสร้างพระพรหม 5 เหลี่ยมวัดโบสถ์ดอนพรหม ได้อนุญาตให้พระครูสังฆรักษ์ประสิทธิ์ สิทธิโก เป็นผู้ดูแลในการจัดสร้างวัตถุมงคล พระพรหม 5 เหลี่ยม เนื้อผงเป็นครั้งแรก ซึ่งการจัดสร้างวัตถุมงคลพระพรหม เป็นการจัดสร้างรุ่น แรกและครั้งแรกของทางวัดโบสถ์ดอนพรหม จึงได้นำมวลสารสิ่งมงคลต่างๆ ที่มีความเข้มขลัง เช่น ปฐวีธาตุ ผงพระธาตุจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และผงแร่ ศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ เกสรดอกไม้บูชาพระจากวัดศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ และแผ่นจารอักขระมหายันต์ มวลสารมงคล 9 ชนิด ดินศักดิ์สิทธิ์จากประเทศอินเดียทั้ง 4 สถาน สำหรับพิธีปลุกเสกทางวัดโบสถ์ดอนพรหม ได้จัดทั้งพิธีพุทธพิธีพราหมณ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจแห่งเทวานุภาพและพุทธานุภาพ อีกทั้งมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังมากมายร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ จ.นนทบุรี, หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี, หลวงพ่อไวพจน์ วัดสามง่าม จ.นนทบุรี หลวงพ่อทองหล่อ วัดคันลัด และพราหมณ์ยศ โกมลเวทิน พระครูพราหมณ์จากกองราชพิธี สำนักพระราชวัง
วัตถุมงคลเนื้อผง 5 เหลี่ยมนี้ ด้านหน้า เป็นรูปองค์หลวงพ่อศิลาแลง ในท่าปางสมาธิ นั่งอยู่เหนือหงส์ ที่มี ยันต์ดวงอยู่ทั้ง 2 ข้างตัวหงส์ ด้านหลังเป็นองค์พระพรหมธาดามหาเทพ ประทับอยู่บนบัลลังก์ ด้านล่าง เขียนคำว่า “ท้าวมหาพรหมธาดา” ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่น่าเช่าหานำมาใช้และเก็บเพื่ออนาคตเป็นอย่างยิ่ง
คราวหน้ามาลุ้นกัน ว่าจะนำเสนอองค์ไหนหรือตำนานอะไรครับ
เขียนโดย ต้น คนชอบพระ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สื่อโซเซี่ยล ครับ
ปล. หากมีวัด ศาสนถาน โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯใดที่ต้องการประชาสัมพันธ์การขายวัตถุมงคลหรือบริจาคเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง ทางคอลัม์พระบ้าน ยินดีประชาสัมพันธ์ให้ฟรีครับ
สนใจลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ติดต่อ 0818214442 ต้น